10 กันยายน ของทุกปี กำหนดเป็น ‘วันป้องกันการฆ่าตัวตายโลก’ (World Suicide Prevention Day) สร้างความตระหนักรู้ถึงต้นตอของปัญหา พร้อมส่งต่อพลังใจดีๆ ให้คนรอบข้าง
องค์การอนามัยโลก กำหนดให้ 10 กันยายน ของทุกปีเป็น ‘วันป้องกันการฆ่าตัวตายโลก’ (World Suicide Prevention Day) โดยเริ่มต้นขึ้นครั้งแรกในปี 2546 เพื่อสร้างความตระหนักกับภาคส่วนต่าง ๆ ในสังคมถึงผลกระทบของการฆ่าตัวตาย ที่ไม่ใช่เพียงจบแค่คนคนหนึ่งเสียชีวิตเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อจิตใจของคนรอบข้างของผู้ตายไปจนถึงผลในเชิงมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมาก
ข้อมูลจาก WHO ระบุว่า ในปีหนึ่ง ๆ มีผู้ฆ่าตัวตายสำเร็จเป็นจำนวนมากกว่า 1 ล้านคน เมื่อคิดเฉลี่ยต่อเวลาจะพบว่าทุก ๆ 40 วินาที จะมีผู้ฆ่าตัวตายสำเร็จ 1 คน การฆ่าตัวตายหรือพยายามฆ่าตัวตาย ยังเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทย แต่ละปีจะมีผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายประมาณ 4,500-5,000 คนต่อปี ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อครอบครัว สังคม และประเทศชาติอย่างมาก
โดยปัญหาที่เกี่ยวข้องในเชิงลึกถึงสิ่งที่ซ่อนตัวอยู่ คือโรคทางจิตเวชโดยเฉพาะปัญหาโรคซึมเศร้า โรคซึมเศร้าถือเป็นภาวะโรคโรคเรื้อรังที่ไม่ต่างจากเบาหวาน หรือ หัวใจ ไม่สามารถหายได้เอง ผู้ป่วยควรได้รับการดูแลช่วยเหลือทางจิตเวช
ทั้งนี้ปัญหาการฆ่าตัวตาย เริ่มต้น ‘ป้องกัน’ ได้จากครอบครัว ดังนี้
1. การมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน (Connect) ไม่ห่างเกินไปและไม่ใกล้ชิดจนเกินไป สมาชิกมีความเป็นตัวของตัวเอง มีบทบาทหน้าที่ชัดเจน
2. สื่อสารดีต่อกัน (Communicate) การสื่อสารที่ดีควรเป็นการสื่อสารที่สื่อจากความรู้สึกของตัวเองโดยตรง เช่น บอกความรู้สึกความต้องการอย่างจริงใจ และถามความเห็นเพื่อแสดงให้เห็นว่าเราสนใจในความรู้สึกนึกคิด แสดงความชื่นชมหรือขอบคุณเพื่อเสริมสร้างความรู้สึกที่ดีต่อกันและกัน นอกจากนั้นยังสามารถสื่อสารได้โดยไม่ใช้คำพูดเช่น มองหน้า สบตา การยิ้ม จับมือ โอบกอด การสัมผัส ก็จะช่วยสร้างพลังให้คนในครอบครัวได้
3. เอาใจใส่ซึ่งกันและกัน (Care) ด้วยการให้เวลากับคนในครอบครัว ใช้เวลาในทำกิจกรรมร่วมกัน ใส่ใจสอบถาม ร่วมมือกันเมื่อเกิดความขัดแย้ง เมื่อคนในครอบครัวมีปัญหาและอุปสรรคเกิดขึ้น ก็พร้อมช่วยเหลือดูแล
นอกจากนั้น การสังเกตสัญญาณเตือนที่จะทำร้ายตัวเองไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือพฤติกรรม อย่ามองว่า เป็นการเรียกร้องความสนใจ หรือเรื่องล้อเล่น ให้มองเป็นความต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนที่ต้องทำทันที ด้วยการให้คำแนะนำอย่างจริงใจ ไม่ตำหนิหรือซ้ำเติม ให้กำลังใจสร้างความหวังว่าปัญหานั้นแก้ไขได้ คอยระวังอย่างใกล้ชิดให้อยู่ในสายตาและให้อยู่ห่างจากอุปกรณ์ที่เขาเตรียมไว้เพื่อทำร้ายตัวเอง แนะนำช่องทางในการให้คำปรึกษา เช่น สายด่วนสุขภาพจิต 1323 หรือคลินิกให้คำปรึกษา หรือสถานพยาบาลใกล้บ้านเพื่อให้เขาเข้าสู่ระบบการช่วยเหลือโดยเร็ว
ดังนั้น การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน มีการสื่อสารที่ดี เอาใจใส่ซึ่งกันและกัน จะช่วยป้องกันและลดปัญหาการฆ่าตัวตายในสังคม
ที่มา : กลุ่มงานพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพจิต กองสุขภาพจิต