‘จีน’ ทดสอบ ‘เครื่องบินไฟฟ้าไร้คนขับ’ รองรับผู้โดยสารได้ 5 คน สำเร็จ พร้อมให้บริการรูปแบบแท็กซี่ หวังช่วยหนุน ‘การเดินทาง-เลี่ยงรถติด’

เมื่อวานนี้ (15 ส.ค.67) การให้บริการ ’Air Taxi‘ ใกล้ความจริงมากขึ้น เมื่อเครื่องบินไฟฟ้าไร้คนขับ (eVTOL) ประสบความสำเร็จในการบินข้ามแม่น้ำแยงซี ในเมืองหนานจิง โดยการบินทดสอบครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ระยะทาง 25 กิโลเมตร ถือเป็นครั้งแรกที่เครื่องบิน eVTOL ที่มีหนักกว่า 1 ตัน บินข้ามแม่น้ำแยงซี ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดของจีน

สำหรับเครื่องบิน eVTOL รุ่นนี้มีปีกกว้าง 15 เมตร ลําตัวยาว 11 เมตร และสูงประมาณ 3.5 เมตร สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 5 คน มีความจุสูงสุดเกือบ 500 กิโลกรัม พัฒนาโดยบริษัท AutoFlight บริษัทสตาร์ตอัปในเซี่ยงไฮ้ Xie Jia รองประธานอาวุโสของ AutoFlight กล่าวว่า เครื่องบินรุ่นนี้จะเป็นตัวเลือกในการเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยว หรือผู้ที่ต้องการเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดในเมือง ซึ่งใช้เวลาเพียง 1 ใน 5 หรือ 1 ใน 10 ของการเดินทางภาคพื้นดิน

ทั้งนี้ จีนมีแผนพัฒนาเศรษฐกิจการบินในความสูงระดับต่ำ โดยเมืองหนานจิงถือเป็นเมืองแนวหน้าของการขับเคลื่อนเรื่องนี้ ตั้งแต่ปี 2020 เมืองหนานจิงได้มีการเปิดเขตทดสอบอากาศยานไร้คนขับพลเรือน (UAV) มีเที่ยวบินทดสอบมากกว่า 24,000 เที่ยว 

ทางด้าน Shi Shan เลขาธิการคณะกรรมการพรรคประจำ Pukou Hi-Tech Zone ในหนานจิงกล่าวว่า การขับเคลื่อนการบินในความสูงระดับต่ำมีความก้าวหน้าอย่างมาก ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งทั้งด้านการท่องเที่ยว การเดินทางในเมือง การกู้ภัยฉุกเฉิน การขนส่ง และสถานการณ์อื่น ๆ ในอนาคต

อย่างไรก็ตาม CCID Consulting บริษัทด้านการวิจัยระบุว่า ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรม eVTOL ของจีนเติบโตขึ้นร้อยละ 77.3 มีมูลค่ากว่า 980 ล้านหยวน หรือประมาณ 4,900 ล้านบาท โดยคาดการณ์ว่า ภายในปี 2026 อุตสาหกรรม eVTOL น่าจะมีมูลค่ากว่า 9,500 ล้านหยวน หรือประมาณ 47,500 ล้านบาท