‘พีระพันธุ์’ รับเรื่องร้องเรียนปัญหาคนเมืองเพชรบุรี ยัน!! แม้ไม่ใช่ภารกิจหลัก แต่พร้อมสานต่อถึง ครม.

(13 พ.ค.67) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วย นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค, นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ สส.เพชรบุรี เขต 1 และ จ.อ. อภิชาติ แก้วโกศล สส.เพชรุบรี เขต 3 รวมทั้ง สส. และ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ และคณะผู้บริหารพรรค ได้ลงพื้นที่จุดสะพานกลับรถข้ามรถไฟทางคู่ อ.เมือง จ.เพชรบุรี

เมื่อเดินทางไปถึงจุดดังกล่าว มีพี่น้องประชาชนได้มายื่นเรื่องร้องเรียน เกี่ยวกับปัญหาการจราจร อุบัติเหตุ ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และจากกรณีรถไฟไม่สามารถหยุดจอดได้ในทันที ซึ่งสุ่มเสี่ยงอาจเกิดอุบัติเหตุรุนแรงได้ ดังนั้นพี่น้องประชาชน จึงต้องการขอให้ภาครัฐทำการสร้างสะพานข้ามเกือกม้า เพื่อลดอุบัติเหตุ และแก้ไขปัญหาการจราจร

จากข้อร้องเรียนดังกล่าวของประชาชนในพื้นที่ อ.เมือง จ.เพชรบุรีนั้น นายพีระพันธุ์ ยืนยันกับพี่น้องประชาชนว่า จะนำปัญหาดังกล่าว เสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ที่มาประชุมที่ จ.เพชรบุรี ในครั้งนี้ด้วย (13-14 พ.ค.2567)

หลังเสร็จภารกิจจากจุดดังกล่าว นายพีระพันธุ์ ได้ลงพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลแก่งกระจานต่อ เพื่อรับหนังสือร้องเรียนชาวบ้านเรื่องการก่อสร้างบานเปิด-ปิด ระบายน้ำ หรือ สปิลเวย์ เขื่อนแก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

ทั้งนี้ นายพีระพันธุ์ กล่าวภายหลังได้รับหนังสือร้องเรียนจากประชาชนว่า ตนจะต้องประสานข้อมูลและข้อเท็จจริงกับทางหน่วยราชการที่เป็นเจ้าของเรื่องว่า มีความเป็นมาเป็นไปอย่างไร อีกทั้งมีวิธีการดำเนินการได้แค่ไหน ในกรณีแบบนี้บางอย่าง ก็ต้องหาวิธีการเพื่อมาชดเชย แต่ถ้าหน่วยราชการมีรูปแบบวิธีการแก้ปัญหาก็สามารถนำมาพิจารณา ขณะเดียวกัน ตนก็จะดูเรื่องการแก้ปัญหานี้ควบคู่ไปด้วยเช่นกัน

ด้าน นายวิรัตน์ นกวอน นายกองค์การบริหารตำบล แก่งกระจาน เปิดเผยว่า วันนี้ตนและประชาชนในพื้นที่ มายื่นหนังสือร้องเรียนให้ท่านรองนายกรัฐมนตรี นายพีระพันธุ์ เพื่อต้องการให้ท่านช่วยชะลอการก่อสร้างบานเปิด-ปิดระบายน้ำเขื่อนแก่งกระจานไปจนกว่า สอบถามความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่แล้วเสร็จ

“ผมเชื่อว่า พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะชาวบ้านที่อยู่ขอบอ่าง ไม่เห็นด้วย เพราะหากมีการก่อสร้างบานเปิด-ปิดดังกล่าวที่สูงขึ้นไปอีก จะทำให้ประชาชน ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมหนัก หากน้ำล้นเขื่อนขึ้นมาในปริมาณที่มากอีก และถ้าหนีขึ้นไปด้านหลังซึ่งเป็นเขาและเป็นพื้นที่เขตอุทยานฯ ก็อาจจะมีความผิดฐานบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ เพราะโครงการดังกล่าวทางกรมชลประทาน ไม่ได้มีการสอบถามความคิดเห็นของประชาชนเลย“ นายวิรัตน์ กล่าว

สำหรับโครงการก่อสร้างนี้มีทั้งหมด 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ ส่วนที่ 1 คือการก่อสร้างสะพานข้ามสปิลเวย์ ส่วนที่ 2 คือ การสร้างแนวกันตลิ่ง เพื่อกันน้ำเซาะตลิ่ง ทั้งนี้ในส่วนที่ 1 และส่วนที่ 2 นี้ ชาวบ้านไม่คัดค้าน เนื่องจากมีประโยชน์ต่อจังหวัด และพื้นที่ เพื่อใช้เป็นจุด check in และเป็นจุด Landmark Point ของจังหวัดแต่ ส่วนที่ 3 คือการก่อสร้างบานเปิด-ปิดน้ำ เพื่อกักเก็บน้ำ ได้มีการประชุมระดับอำเภอแล้ว และได้ข้อสรุปให้ชะลอจนกว่าจะสอบถามความคิดเห็นของประชาชน แม้ที่ผ่านมาจะมีการสั่งชะลอ แต่ยังมีการดำเนินการก่อสร้าง

ปัญหาที่เกิดขึ้น กับประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว เมื่อน้ำล้นสปิลเวย์ จะท่วมบ้านเรือนราษฎรที่เป็นที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ ยังท่วมพื้นที่ทำกิน พืชผลทางการเกษตร อีกทั้งแนวเขตชลประทานเพิ่มขึ้นทับช้อนพื้นที่ทำกินของชาวบ้านที่ได้รับการผ่อนผันให้ทำกิน ตามมติ ครม. มิ.ย. 41

นายวิรัตน์ กล่าวอีกว่า ส่วนแนวทางแก้ไข้ ต้องการเสนอให้ชลประทานเปลี่ยนแปลงโครงการจากทำบานพับสปิลเวย์ มาเป็นขุดลอกเขื่อนแทน เนื่องจากทุกปีในช่วงฤดูฝน เกิดน้ำหลาก เกิดการพังทลายของดินไหลลงสู่เขื่อนแก่งกระจาน เป็นตะกอน ทำให้ตื้นเขิน จึงกักเก็บน้ำได้ปริมาณน้อยลง จึงควรใช้วิธีการขุดลอก เพื่อกักเก็บน้ำให้มากขึ้น เป็นการลดความเสี่ยงกรณีเขื่อนแตก เพราะจะมีผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้อยู่อาศัยบริเวณใต้เขื่อน และลดผลกระทบผู้อยู่อาศัยบริเวณรอบเขื่อนอีกด้วย

สำหรับหมู่บ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการก่อสร้างดังกล่าว ได้แก่ หมู่บ้านพุเข็ม หมู่ 10 ต.แก่งกระจาน หมู่บ้านพุบอน หมู่ที่ 14 ต.แก่งกระจาน หมู่บ้านน้ำทรัพย์ หมู่ที่ 9 ต.แก่งกระจาน หมู่บ้านหนองเกตุ หมู่ที่ 7 ต.แก่งกระจาน หมู่บ้านท่าเรือ หมู่ที่ 8 ต.แก่งกระจาน หมู่บ้านท่าลิงลม หมู่ที่ 3 ต.สองพี่น้อง หมู่บ้านวังวน หมู่ที่ 2 ต.สองพี่น้อง หมู่บ้านพุไทร หมู่ที่ 3 ต.ห้วยแม่เพรียง และหมู่บ้านลำตะเคียน หมู่ที่ 4 ต.แก่งกระจาน ทั้งนี้มีทั้งหมด2,097 ครัวเรือน มีประชากรทั้งหมด 4,715 คน

ภายหลังรับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน ทั้งปัญหาการจราจรจุดสะพานกลับรถข้ามรถไฟทางคู่ อ.เมือง และ เรื่องการก่อสร้างบานเปิด-ปิด ระบายน้ำ หรือสปิลเวย์ เขื่อนแก่งกระจาน นายพีระพันธุ์ ยังได้ลงพื้นที่ หมู่ที่ 3 ต.ไร่สะท้อน อ.บ้านลาด เพื่อพบปะพูดคุยกับประชาชนกลุ่มเลี้ยงวัวทางด้านการเกษตรและกีฬาต่อ

หลังจากพูดคุยกัน นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า “ประเด็นปัญหาเกี่ยวกับเรื่องช่วงเวลาการเล่นกีฬาวัวลาน ที่จะขอให้มีการปรับเปลี่ยนช่วงเวลาในการแข่งเป็นเวลาไหนนั้น ให้เป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการไปก่อน แต่ถ้าไม่ได้ เราก็จะมาแก้ให้อยู่ในกฎหมาย เพื่อให้เกิดความยั่งยืนดีกว่า”

นายพีระพันธุ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “แต่ในระหว่างรอการแก้ไขกฎหมาย เราก็สามารถประสานไปกับทางกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้”