‘อัครเดช’ เปิดไทม์ไลน์ปม ‘กากแคดเมียมอันตราย’ ลั่น!! จนท.รัฐ เอี่ยว ต้องถูก ‘สอบสวน-ดำเนินการ’

“กากแคดเมียมเมื่อผ่านกระบวนการหลอมเพื่อสกัดสิ่งที่อยู่ภายในมีมูลค่าการซื้อขายสูงถึงตันละประมาณ 200,000 บาท จึงเป็นผลประโยชน์ที่ใครก็อยากได้”

เป็นข้อมูลจาก ‘นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์’ ประธานกรรมาธิการอุตสาหกรรม สส.ราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่ชี้ให้เห็นถึงเม็ดเงินมหาศาลจาก ‘กากแคดเมียม-สังกะสี’ ที่เป็นข่าวดังครึกโครมอยู่ขณะนี้ หลังมีการขุดและลักลอบขนย้ายจากจังหวัดตาก กว่า 15,000 ตัน กระจายไปซุกไว้ตามจังหวัดต่าง ๆ ซึ่งข้อมูลการตรวจพบโดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม ล่าสุดพบในพื้นที่ 2 จังหวัด คือ สมุทรสาครและชลบุรี

นายอัครเดช เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า “กมธ.อุตสาหกรรม ได้ติดตามเรื่องดังกล่าวมาตั้งแต่ต้นปี 2567 เพราะได้รับการร้องเรียนมีการนำกากอุตสาหกรรม ที่คาดว่าจะไม่ถูกกฎหมายจำนวนมากเคลื่อนย้ายออกจากจังหวัดตาก ณ ขณะนั้นยังไม่ทราบว่าจะไปยังที่ใด ซึ่งตามรายงานกากแร่นี้ระบุไว้ว่า ‘มีอันตรายห้ามเคลื่อนย้าย’

>> กุมภาพันธ์ 2567
ประธานกรรมาธิการอุตสาหกรรม เล่าต่อไปว่า จากนั้นจึงเริ่มดำเนินการสืบสวนสอบสวนเชิงลึก กระทั่งมีการเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดตาก อุตสาหกรรมจังหวัดตาก มาให้ข้อมูลเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ทั้ง 2 หน่วยงาน มอบให้ผู้แทนคือรองผู้ว่าฯ และผู้แทนอุตสาหกรรมจังหวัดมาชี้แจง ระบุว่า พื้นที่เหมืองเก่าใน อ.แม่สอด ส่งคืนพื้นที่ให้กรมป่าไม้ไม่มีการทำเหมือง

>> มีนาคม 2567
จากนั้นต้นเดือนมีนาคม 2567 กมธ.อุตสาหกรรม เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาอีกครั้ง เพราะได้รับข้อมูลว่า มีการย้ายกากแร่จาก อ.แม่สอด มาจาก จ.ตาก ทุกหน่วยงานจึงช่วยตรวจสอบ โดยเฉพาะกรมโรงงานอุตสาหกรรม ที่แจ้งว่า การตรวจสอบสามารถทำได้เพราะมีการลงทะเบียนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ในใบขนย้าย

ต่อมาวันที่ 27 มีนาคม 2567 กรรมาธิการฯ ได้เชิญทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมอีกครั้ง ซึ่งอุตสาหกรรมจังหวัดตาก ชี้แจงว่า เป็นผู้เซ็นอนุมัติให้มีการขนย้ายกากแร่ดังกล่าวออกไปที่ จ.สมุทรสาคร

แต่ทางรองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ตั้งข้อสังเกตว่า ปลายทางไม่น่าจะรับกากแร่ที่ขนไปได้ แคดเมียมเป็นโลหะหนัก โรงงานปลายทางไม่สามารถหลอมโลหะอันตรายได้ เพราะเป็นโรงหลอมอะลูมิเนียมที่ไม่อันตราย

“ในวันนั้นที่ปรึกษากรรมาธิการอุตสาหกรรม สอบถามกับทางอุตสาหกรรมจังหวัดตาก เรื่องการขนย้ายกากดังกล่าว เพราะในข้อมูลทาง EIA ระบุชัดว่า จะต้องใช้วิธีการฝังกลบตามกระบวนการเท่านั้น แต่ทางอุตสาหกรรมจังหวัดตาก แจ้งว่า ขอกลับไปตรวจสอบก่อน”

>> เมษายน 2567
ประธานกมธ. เล่าอีกว่า และเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2567 จึงเชิญ 8 หน่วยงานมาประชุม และมีความเห็นว่า กากดังกล่าวเป็นอันตราย

โดยในที่ประชุม ผู้แทนกรมโรงงานฯ นำผลการตรวจสอบตัวอย่างกากแร่ที่พบในโรงงานสมุทรสาคร มาชี้แจง ว่า ผลการวิเคราะห์พบกากแคดเมียมมีความเข้มข้นสูงถึง 40% ถือว่าเป็นอันตรายมาก

“ในฐานะ ปธ.กมธ.อุตสาหกรรม จะปล่อยเรื่องนี้เงียบไม่ได้ กรณีนี้ จนท.รัฐ จะต้องถูกสอบสวนหรือดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด”

ส่วนล่าสุดวันนี้ (9 เม.ย.67) แฟนเพจเฟซบุ๊ก ‘ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)’ ได้เปิดเผยภาพและข้อมูล การเข้าตรวจค้นโรงงานแห่งที่ 4 ย่านคลองมะเดื่อ สมุทรสาคร พร้อมระบุว่า เจอแคดเมียมอีกเกือบ 1,000 ตัน

โดยด้านพล.ต.ต วัชรินทร์ พูสิทธ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ปทส.) กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ สามารถตรวจพบกากแคดเมียมได้อีก 1,000 ตันที่โกดังแห่งหนึ่งใน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พร้อมทั้งเรียกประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อวางแนวทางการทำงานร่วมกับกรมโรงงาน ในการตรวจสอบว่าโรงงานดังกล่าวได้รับอนุญาตให้ครอบครองวัตถุอันตรายหรือไม่ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม รวมทั้งความผิดอื่น ๆ เช่น พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร และพ.ร.บ.คนเข้าเมืองเพิ่มเติมต่อไป


ที่มา: อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ให้สัมภาษณ์ในรายการ ตอบให้เคลียร์ ทาง NBTConnext
https://www.thansettakij.com/business/economy/593088