ผลสำรวจ เผย คนวัยผู้ใหญ่ 50% ในประเทศเศรษฐกิจใหญ่เครียดเรื่องเงิน ยอมรับการเงินรุ่นพ่อแม่แข็งแรงกว่า แถมห่วงการเงินลูกหลานในอนาคต

(6 เม.ย.67) BTimes เปิดเผยรายงานผลสำรวจความมั่นคงการเงินระหว่างประเทศ หรือ International Your Money Financial Security Survey จาก เซอร์เวย์มังกี้ (SurveyMonkey) ซึ่งรวบรวมข้อมูลจากการสำรวจผู้ใหญ่ทั้งหมด 4,342 คน ในช่วงเดือนมีนาคม 2024 พบว่า ประชากรวัยผู้ใหญ่มากกว่าครึ่งหนึ่งในกลุ่มประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ มีความเครียดด้านการเงินส่วนบุคคล สาเหตุจากภาวะเงินเฟ้อในระดับสูงเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ค่าเงินลดเสื่อมลง นอกจากนี้ มีสัดส่วนจำนวนมากยอมรับว่า ตนเองมีฐานะทางการเงินแย่กว่าพ่อแม่ และมีมุมมองด้านลบต่ออนาคตทางการเงินของลูกหลาน

ประชากรวัยผู้ใหญ่ที่อาศัยอยู่ใน สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย สเปน และเม็กซิโกในสัดส่วนราว 70% ยอมรับว่า มีความเครียดค่อนข้างมากถึงมากในเรื่องการเงิน ขณะที่สัดส่วนดังกล่าวมีที่ 63% ในประชากรวัยผู้ใหญ่ในสหราชอาณาจักร มีถึง 57% ในเยอรมนี มี 55 % ในสวิตเซอร์แลนด์ และมี 50% ในสิงคโปร์ และฝรั่งเศส

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความเครียดทางการเงิน ได้แก่ ภาวะเงินเฟ้อสูง ขาดแคลนเงินออม ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

ผลสำรวจเปิดเผยว่า ชนชั้นกลางเป็นกลุ่มคนที่มีความสะดวกสบายทางการเงินในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม พบว่า 45%-62% ของผู้ตอบแบบสำรวจในครั้งนี้กลับยอมรับว่าเป็นชนชั้นกลางที่ใช้เงินแบบเดือนชนเดือน ในทำนองเดียวกัน สัดส่วนราวครึ่งหนึ่ง หรือ 50% ในออสเตรเลีย เยอรมนี และสหราชอาณาจักร ยอมรับว่าตนเองมีสถานะทางการเงินย่ำแย่กว่าเมื่อ 5 ปีที่แล้ว หรือตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์โรคระบาดโควิด-19 ที่น่าสนใจ คือ ผู้ตอบแบบสำรวจในสิงคโปร์และเม็กซิโก ซึ่งเป็นเพียง 2 ประเทศเท่านั้น ที่ส่วนใหญ่ยอมรับว่าตนเองมีฐานะทางการเงินดีกว่าพ่อแม่