‘เศรษฐา’ ลั่นกลางวง!! ตำรวจมีปัญหานายกฯ ต้องเป็นที่พึ่ง ย้ำ!! จากนี้ ‘ห้ามให้ข่าว-หยุดดรามา’ ต้องสามัคคีไม่แบ่งฝ่าย

(21 มี.ค.67) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่ากระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการตำรวจ (ก.ตร.) เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายตั้งแต่ระดับผู้บัญชาการขึ้นไป โดยมี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รอต้อนรับ ซึ่งนายกรัฐมนตรีมาก่อนเวลา 15 นาที จากนั้นได้มีการพูดคุยกันวงเล็กกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ โดยเป็นที่น่าสังเกตว่า วันนี้ นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี มือกฎหมาย เข้าร่วมประชุมด้วย

ต่อมานายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานมอบนโยบาย ทั้งนี้ ในช่วงของการมอบนโยบาย นายกรัฐมนตรีได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้าฟังด้วยตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกที่สื่อมวลชนได้เข้ารับฟัง

โดย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผมเชื่อว่าทุกท่านเข้าใจดีที่เรามาประชุมวันนี้เพราะอะไร ชัดเจน ว่าตำรวจเป็นที่พึ่งของประชาชน ขอพูดสั้นๆ ง่ายๆ และเชื่อว่าทุกคนเข้าใจ หากองค์กรตำรวจมีปัญหา นายกฯ ต้องเป็นที่พึ่งของตำรวจ และขอให้กระบวนการยุติธรรมเดินหน้าเพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่าย เพื่อให้ทุกอย่างเดินไปข้างหน้าได้ ปัญหาที่เกิดขึ้นกับนายตำรวจระดับสูงทั้งสองคนที่เป็นข่าวเมื่อวานนี้ และปัญหาที่เกิดขึ้นที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อย่าให้การดูแลพี่น้องประชาชนหย่อน จะต้องมีการบริหารจัดการเกิดขึ้นมา เราต้องคำนึงถึงหน้าที่ที่เรามีอยู่ เราอยู่ตรงนี้เราอยู่เพื่ออะไร ผมขอสั่งให้ยุติการให้ข่าว เกี่ยวกับเรื่องทั้งสองท่าน เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมเดินไปข้างหน้า เพื่อให้เกิดความถูกต้องและความเป็นธรรมกันทั้งสองฝ่าย ใครที่เคยเทคไซส์เคยให้ข่าว ขอให้หยุดเนื่องจากกระบวนการยุติธรรมได้ดำเนินการขึ้นแล้ว ส่วนเรื่องการแทรกแซงผมเคยได้พูดไปแล้วว่า ตนไม่เห็นด้วย และไม่อยากให้ทุกท่านที่อยู่ในที่นี้เป็นตัวละครของเรื่องเหล่านี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ให้กระบวนการเป็นตัวพิสูจน์เอง อย่าไปแทรกแซงผู้ใต้บังคับบัญชา จึงได้มีการให้ไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี ผมมองว่าถ้าการที่คนในเครื่องแบบทะเลาะกันประชาชนก็เดือดร้อน

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า หลายอย่างอยากให้บริหารจัดการให้ดีตามหน้าที่ที่เราควรจะต้องทำ ไม่ว่าจะเป็นการปราบปรามยาเสพติด เพราะยาเสพติดไม่ใช่แค่การปราบปรามในประเทศ ยังมีการลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ จะต้องมีการประสานงานจากหน่วยงานอื่น ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานความมั่นคง ทหาร ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่าบอกว่าเป็นหน้าที่ของใครหากยาเสพติดเข้ามาในประเทศ พวกเราทุกคนต้องรับผิดชอบไม่ใช่ว่าเป็นความรับผิดชอบของทหาร เพราะประชาชนเดือดร้อน

นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องของการปราบปรามหนี้นอกระบบปล่อยให้มีการกู้ยืมเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยที่ไม่เป็นธรรมกับประชาชนถือเป็นเรื่องสำคัญมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่ตนยังไม่เห็นถูกบริหารจัดการได้อย่างดีพอทั้งที่เป็นนโยบายหลักของรัฐบาล อีกทั้งการเข้าสู่กระบวนการประนอมหนี้ระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ก็ยังมีจำนวนน้อย ที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องของผู้มีอิทธิพลควรที่จะเข้าสู่การประนอมหนี้ขอให้กำชับผู้การจังหวัด ผู้กำกับทุกคน เพื่อไม่ให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นได้และประสานงานกับฝ่ายปกครองกระทรวงมหาดไทย ส่วนการลักลอบนำเข้าสินค้าหนีภาษี และแรงงานต่างด้าวตามแนวชายแดน เป็นที่ประจักษ์ดีแล้วว่าเราให้ความสำคัญสูงมาก เพราะว่าราคายางพาราที่สูงขึ้นได้ในปัจจุบันเนื่องจากการทำงานของหลายๆ ฝ่าย กระทรวงเกษตรฯ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายทหาร ฝ่ายกระทรวงการคลัง หากราคายังขึ้นไม่ถึง 95 บาทต่อกิโลกรัม ผมเชื่อว่าประชาชนจะมีกินมีใช้ ทำให้ปัญหาต่างๆ ที่กล่าวมาลดน้อยลง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนการปราบปราม บ่อนการพนันสถานบริการต่างๆ ขอให้ยึดตามกฎหมายเป็นหลัก บ่อนต่างๆ อย่าให้มี การปราบปรามเว็บพนันออนไลน์เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ขอเลยว่า ต้องให้ความสำคัญ เพราะฉะนั้นใครที่ดูแลเรื่องนี้อยู่ขอให้ขะมักเขม้นให้ดี อาวุธเถื่อนอาวุธสงคราม เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องจัดการอย่างจริงจัง เรื่องอื่นๆ ของเล็กๆ น้อยๆ มากอย่างการเผาป่า PM 2.5 ในภาคเหนือภาคตะวันตกและภาคอีสาน เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ฝ่ายความมั่นคงอย่างเราต้องช่วยกัน ทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการทุกๆ ภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมฝ่ายทหาร ต้องยึดมั่นในข้อบทกฎหมายอย่างภาค 5 ผู้บัญชาการภาค 5 ได้ทำไป เรื่องของการจับคนเผาป่า และมีเงินรางวัลนำจับ ถือเป็นวิธีการหนึ่ง เชื่อว่าพวกท่านมีอำนาจที่จะออกกฎเฉพาะกิจแต่แถวพื้นที่ของท่านเองเพื่อไม่ให้มีการเผาป่าเกิดขึ้น

ส่วนนโยบายเรื่องการท่องเที่ยวติดเป็นเรื่องสำคัญการดูแลนักท่องเที่ยว นโยบายของรัฐบาลมีการผลักดันให้กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ระบบการตรวจคนเข้าเมืองที่มีปัญหาซึ่งตนถือว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและต้องให้ความสำคัญการลงพื้นที่ลงมาตรวจเช็กกับผู้ใต้บังคับบัญชาเองถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องทำ เรื่องของไก่ผีต่าง ๆ ตื่นแล้วครับชาวต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจไม่ถูกต้อง ต้นว่ารถท่านที่อยู่ในพื้นที่รู้อยู่แล้วว่าใครเป็นใคร ใครทำอะไรอยู่ เพราะฉะนั้นขอให้มีการกระชับทำงานอย่างเร่งด่วน ตนลงไปดูเรื่องสวัสดิการตำรวจชั้นผู้น้อย น่าจะมีความคืบหน้าไปได้จึงอยากขอคำตอบตรงนี้ ซึ่งรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็ให้การตอบรับเรื่องนี้และขอให้เดินหน้าไปได้เร็ว

“เรื่องสุดท้ายผมก็พูดไปแล้ว คือเรื่องที่ต้องให้พวกเรากันเองมีความสมัครสมานสามัคคี เชื่อว่าทุกคนก็เป็นคน มีการรักชอบใครต่างๆ กันไป ไม่เชื่อว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็เข้าใจถึงปัญหา ที่เกิดขึ้นทั้งหลายเรื่องความสว่างสมานสามัคคีการเทคไซส์ แบ่งพรรคพวก แบ่งลูกน้องอะไรยังไงทั้งหลาย เราเชื่อว่าเก็บรักความรักไว้ในใจของตัวเองดีกว่าวันนี้เอาประชาชนเป็นที่ตั้งและดูแลประชาชนให้ดีที่สุด เรื่องของคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นมา เหตุการณ์เมื่อวานนี้ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรมซึ่งเราก็มีคณะกรรมการแล้ว 3 ท่าน ซึ่งหลังจากที่มีบทสรุปแล้วก็จะเข้าก.ตร.เพื่อจะให้ทำอีกครั้งหนึ่ง ขออย่าห่วงนะผมให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่ายเพราะไม่ฝักใฝ่กับใครคนใดคนหนึ่ง เราอยู่ตรงนี้ดูแลประชาชน ขอยืนยันตรงนี้ก็แล้วกัน ตนเชื่อว่าทำงานด้วยกันได้ และองค์กรสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็จะเดินได้อย่างสมศักดิ์ศรี” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ด้านพล พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า จะเดินหน้าและปฏิบัติตามนโยบาย ข้อสั่งการทุกเรื่องที่นายกรัฐมนตรีได้มอบให้อย่างจริงจัง ตนเองก็จะทำหน้าที่รักษาการเพื่อนำไปสู่ ความสงบสุขและความอยู่ดีกินดีของพี่น้องประชาชน