สมาคมแม่บ้านตำรวจลงนาม MOU กับกระทรวงมหาดไทย ร่วมสนับสนุนส่งเสริมผ้าไทย เสริมสร้าง Soft power ของไทย

วันนี้ (21 ธ.ค.66) เวลา 12.30 น. คุณนิภาพรรณ สุขวิมล นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ และ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างสมาคมแม่บ้านมหาดไทย กับสมาคมแม่บ้านตำรวจ ร่วมมือในหัวข้อ “รวมพลัง สร้างบ้าน อุ่นรัก ร่วมสวมผ้าไทย ใช้สินค้าไทย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม น้อมนำความสุขอย่างยั่งยืน ร่วมคืนคนดีสู่สังคม” ณ ห้องประชุมราชบพิธ ชั้น 5 อาคารดำรงราชานุสรณ์ กระทรวงมหาดไทยโดยมี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมลและ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมเป็นสักขีพยาน

ทั้งนี้ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ กล่าวว่าโครงการความร่วมมือนี้ เกิดจากการดำเนินภารกิจตามนโยบายต่าง ๆ ของสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ที่เห็นผลในเชิงประจักษ์ สมาคมแม่บ้านตำรวจพิจารณาว่า พันธกิจระหว่าง 2 หน่วยงาน ต่างมุ่งประโยชน์เพื่อจะบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแก่ประชาชน และเป็น “หลังบ้าน” ที่ดี เพื่อสนับสนุนภาระหน้าที่ของ “หน้าบ้าน” ให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ 

นอกจากนี้ สมาคมแม่บ้านตำรวจยังได้รับนโยบายจาก พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งได้วางเป้าหมายที่จะสร้าง Home Police ไม่เพียงแต่จะให้ความสำคัญแก่ครอบครัวตำรวจ ยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของครอบครัว ของชุมชนทุกครัวเรือน ที่อยากเห็นทุกครอบครัวมีความอบอุ่น และมีความปลอดภัยในทุกด้าน หากตำรวจทำงานร่วมกับประชาชนด้วยความสามัคคี โดยคำนึงถึงประชาชนในชุมชน และช่วยเป็นหูเป็นตา ย่อมแสดงออกถึงความเข้มแข็งและความมั่นคงในการป้องกันอาชญากรรมได้เป็นอย่างดี

สมาคมแม่บ้านตำรวจจึงนำกรอบพันธกิจทั้ง 2 หน่วยงาน ที่เป็นแกนกำลังของสังคมและชุมชน มาผนึกกำลังเป็นโครงการที่จะร่วมบูรณาการ รวมทั้งสร้างความสุขอย่างยั่งยืนให้กับประเทศ ในการบันทึกข้อตกลงความร่วมมื (MOU) ในหัวข้อ “รวมพลัง สร้างบ้าน อุ่นรัก ร่วมสวมผ้าไทย ใช้สินค้าไทย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม น้อมนำความสุขอย่างยั่งยืน ร่วมคืนคนดีสู่สังคม” ในครั้งนี้ และยังเป็นการสนับสนุน Soft Power ของไทย

Soft Power เป็นการปรับรูปแบบของวัฒนธรรมให้สามารถสอดแทรกเข้ากับผลประโยชน์หรือค่านิยมของประเทศเป้าหมายได้ เพิ่มโอกาสที่วัฒนธรรมดังกล่าวจะกลายเป็น Soft Power ของประเทศนั้น เพราะไม่ได้ถูกมองว่าเป็นศัตรู หากแต่เป็นโอกาสในการต่อยอดสิ่งดีงามใหม่ ทำให้ประเทศเป้าหมายรู้สึกต้องการโอกาสนี้และเปิดใจยอมรับได้อย่างเต็มใจ ด้วยการแทรกซึมวัฒนธรรมในรูปแบบใหม่นี้เอง จึงดึงดูด ส่งอิทธิพล และเป็นที่ชื่นชมของคนทั่วโลกไปโดยปริยาย