'ธนาธร' ขายฝัน!! ยกนโยบายก้าวไกลคุยโว หวังดิสเครดิตรัฐบาล แนะวิธีใช้เงิน 5 แสนล้าน แต่ไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจแท้จริง

(18 พ.ย.66) จากกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เปิดบรรยายสาธารณะในหัวข้อ ‘ประเทศไทยควรได้อะไร หากต้องใช้ 5 แสนล้าน’ ต่อสาธารณชน โดยนายธนาธรเสนอว่า หากมีเงิน 5 แสนล้าน สิ่งที่ควรจะทำก็คือการกระจายเงินไปลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 5 ด้าน นอกเหนือจากงบประมาณประจำที่รัฐต้องจ่ายอยู่แล้ว ซึ่ง 5 ด้านที่ว่านี้ ได้แก่ การสาธารณสุข การคมนาคม น้ำประปาดื่มได้ การจัดการขยะ และการศึกษา

ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งที่นายธนาธร ได้พูดถึงนั้น เปรียบเสมือนเป็นเหมือนทีวีที่ไม่มีจะอะไรฉาย ไม่เช่นนั้นคงไม่เอาละครฉากซ้ำๆ มาเผยแพร่แบบนี้ ซึ่งแต่ละหัวข้อทั้ง 5 ด้าน รวมแล้วใช้ 456,900 ล้านบาทนั้น เป็นโครงการระยะยาว ตามที่นายธนาธรฯ บอกว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 8 ปีหรือสองสมัย ได้แก่ 1.สร้างระบบแพทย์ทางไกล หรือเทเลเมดิซีน ทั่วประเทศ 60,900 ล้านบาท 2.รถเมล์ไฟฟ้าทุกจังหวัด 88,000 ล้านบาท 3.น้ำประปาดื่มได้ทั่วประเทศ 67,000 ล้านบาท 4.ลงทุนเพิ่มศักยภาพโรงเรียน 121,000 ล้านบาท และ 5.จัดการขยะอย่างถูกสุขลักษณะทั่วประเทศ 120,000 ล้านบาท โครงการเหล่านี้อยู่ในแผนเศรษฐกิจระยะยาวของรัฐบาล แต่ไม่ใช่โครงการที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในทันที นอกจากนี้ยังเป็นการหาทางลงให้กับตัวเองและพรรคก้าวไกล เพราะสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ แต่เป็นนโยบาย 300 ข้อที่พรรคก้าวไกลได้หาเสียงไว้ในการเลือกตั้งทั้งสิ้น

“ถ้าตอนที่พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หากพรรคก้าวไกลยอมลดโทนลง ไม่สุดโต่งตั้งแต่แรก โดยเฉพาะเงื่อนไขของพรรคที่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ และเงื่อนไขจะแก้มาตรา 112 แบบสุดซอย ในวันนี้พรรคก้าวไกลคงได้มีโอกาสเป็นรัฐบาล นโยบายทั้ง 300 ข้อที่ประกาศไว้ประชาชนก็อาจได้มีโอกาสทำหากเป็นรัฐบาล ไม่ใช่ได้แต่ออกมาพูดผ่านโซเชียลมีเดียว่าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้

ขอถามว่าสิ่งที่นายธนาธร กับพรรคก้าวไกลยืนยันที่จะแก้ไขมาตรา 112 อย่างสุดโต่ง ทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่มีใครเอาด้วย แล้วตนเองจะไม่ได้เป็นรัฐบาล ไม่ได้มีโอกาสทำนโยบาย 300 ข้อที่ตนได้สัญญากับประชาชนก็ตาม โดยคงคิดไปเองว่าทำแบบนี้แล้วจะได้คะแนนสงสารชนะเลือกตั้งครั้งต่อไป ก็ต้องถามนายธนาธรดังๆ ว่าต้องการทำเพื่อประโยชน์ประชาชนจริงหรือไม่ หรือทำเพื่อประโยชน์ของตัวเองกันแน่