‘ไทยสมายล์บัส’ ประกาศ ‘เพิ่มรถ-เพิ่มรอบ’ 5 เส้นทางที่วิ่งทับซ้อน เพื่อรองรับความต้องการของผู้โดยสาร หลัง ‘ขสมก.’ ยุติเดินรถ

เมื่อวานนี้ (20 ต.ค.66) จากกรณีที่ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ผู้ให้บริการเดินรถในเส้นทางทับซ้อน ได้ถอนการเดินรถออกจากการให้บริการตามนโยบายกรมการขนส่งทางบก ใน 5 เส้นทาง นั้น

นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด เปิดเผยว่า ตามนโยบายปฏิรูปของภาครัฐ ที่อาจส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงใน 5 เส้นทางเดิมตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป

ทางบริษัท ไทย สมายล์ บัส ซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้อง ขอให้ความมั่นใจว่า ได้มีการวางแผนรองรับความต้องการเดินทางของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีการเพิ่มจำนวนรถ เพิ่มเที่ยว เพิ่มรอบ เช่น เส้นทาง 140 หรือเส้นทางปฏิรูป 4-23E จากผู้ประกอบการรายเดิม รวมกันมีเที่ยวรถวิ่งอยู่ที่ 150 เที่ยวต่อวัน

หลังจากมีการยุติเดินรถในเส้นทางดังกล่าว ทางไทยสมายล์บัสได้เพิ่มจำนวนรอบวิ่งเป็น 164 เที่ยว ซึ่งหากเทียบกับเที่ยววิ่งขั้นต่ำที่กำหนดไว้ 44 เที่ยว จะคิดเป็นสัดส่วนรถให้บริการเพิ่มขึ้นถึง 373% พร้อมนำร่องเพิ่มเที่ยวรถตลอดคืนในบางเส้นทางอีกด้วย

สำหรับ 5 เส้นทางหลักที่ทางบริษัทได้ทำการเพิ่มเที่ยวรถ เพิ่มรอบ มีดังนี้

1. สาย 8 หมายเลขปฏิรูป 2-38 : แฮปปี้แลนด์ – ท่าเรือสะพานพุทธ)
2. สาย 34 จะแบ่งสองเส้นทาง
- สาย 34 หมายเลขปฏิรูป 1-3 : บางเขน – ถนนพหลโยธิน – หัวลําโพง
- สาย 34 หมายเลขปฏิรูป 1-2E : รังสิต – หัวลําโพง (ทางด่วน)
3. สาย 39 แบ่งเป็นสองเส้นทาง
- สาย 39 หมายเลขปฏิรูป1-4 : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) – บางเขน
- สาย 39 หมายเลขปฏิรูป 1-5 : รังสิต – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เส้นทาง ม.ศูนย์รังสิต – อนุสาวรีย์ฯ
4. สาย 140 หมายเลขปฏิรูป 4-23E : แสมดำ – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ทางด่วน)
5. สาย 517 หมายเลขปฏิรูป 1-56 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง – อนุสาวรีย์ฯ

นางสาวกุลพรภัสร์ เปิดเผยอีกว่า ส่วนการให้บริการในทุกเส้นทางที่มีการเปลี่ยนแปลงตามนโยบายเส้นทางปฏิรูป ซึ่งประชาชนอาจต้องเดินทางต่อรถในบางเส้นทางนั้น ทางบริษัทได้คำนึงถึงข้อจำกัดดังกล่าว จึงได้จัดโปรโมชันลดค่าครองชีพพี่น้องประชาชนด้วย ‘Daily Max Fare’ จากบัตรโดยสาร HOP Card ให้สามารถเดินทางได้ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว ไม่จำกัดสาย จ่ายสูงสุดไม่เกิน 40 บาทต่อวัน และรถต่อเรือจ่ายสูงสุดไม่เกิน 50 บาทเท่านั้น

ส่วนบัตรโดยสารฯ HOP Card สามารถหาซื้อได้จากบัสโฮสเตสบนรถ และพนักงานบริการบนท่าเรือโดยสารทุกแห่ง รวมถึงช่องทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน ‘Shopee’