‘ครม.’ ตั้ง ‘อรัญ พันธุมจินดา’ ขรก.การเมือง สำนักเลขาฯ นายกฯ ฟาก ‘วัชรพล โตมรศักดิ์’ นั่งตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี

(17 ต.ค. 66) เพจเฟซบุ๊ก ‘พรรคชาติพัฒนากล้า’ ได้โพสต์ข้อความแสดงความยินดีกับ ‘อรัญ พันธุมจินดา’ ผู้อำนวยการพรรคชาติพัฒนากล้า ได้รับแต่งตั้งเป็นข้าราชการการเมือง ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ ‘วัชรพล โตมรศักดิ์’ อดีต สส.โคราช 3 สมัยได้รับแต่งตั้ง เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี

ทั้ง 2 คนที่ได้รับตำแหน่ง มีประวัติการทำงานในด้านการเมืองที่น่าสนใจอย่างยิ่ง โดย ‘อรัญ พันธุมจินดา’ จบการศึกษา ปริญญาตรีนิติศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชานิติศาสตร์ ปริญญาโท นิติศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชากฎหมายมหาชน และปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ 

เริ่มเข้าสู่การเมือง ในปี พ.ศ. 2548 ดำรงตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่ง อาทิ เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร, ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม, ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ, ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ...., ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติบริษัทมหาชน จำกัด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... สภาผู้แทนราษฎร, ผู้ชำนาญการประจำสมาชิกวุฒิสภา ผู้ชำนาญการประจำสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เป็นผู้เชี่ยวชาญประจำสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายเทวัญ ลิปตพัลลภ

ส่วน ‘วัชรพล โตมรศักดิ์’ เป็นลูกโคราชโดยแท้ เกิดเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2505 ที่ จ.นครราชสีมา จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาศิลปศาสตร์ สถาบันราชภัฏนครราชสีมา, ปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (การปกครองท้องถิ่น) มหาวิทยาลัยขอนแก่น

เริ่มเข้าสู่เส้นทางการเมืองในปี 2533 จากการเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมาติดต่อกัน 6 สมัย เคยดำรงตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา และประธานสภาองค์การบริหารการบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา

นายวัชรพล สวมเสื้อพรรคชาติพัฒนาลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และได้รับการเลือกตั้งสมัยแรกในปี 2550 สมัยที่สองในปี 2554 และสมัยที่สามในปี 2562 จากนั้นได้รับความไว้วางใจ ให้ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการพรรคชาติพัฒนา ในปี 2563 และรักษาการหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้าในปี 2566

ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสำคัญอีกมากมาย โดยได้รับการแต่งตั้งให้เป็น เลขานุการคณะอนุกรรมาธิการที่ดินและสิ่งก่อสร้างคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565, เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร, เป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาและแก้ไขปัญหาช้างป่า, เป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแก้ไขคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เรื่องการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ

เคยดำรงตำแหน่ง คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการบริหารจัดการลุ่มน้ำทั้งระบบ, เป็นรองประธานคณะอนุกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการบริหารจัดการลุ่มน้ำป่าสัก, เป็นคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล), เป็นอนุกรรมการกลั่นกรองกฎหมายของวิปรัฐบาล, เป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 และเป็นโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัยพิจารณาปัญหาการแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรและศึกษาแนวทางช่วยเหลือประชาชนจากปัญหาราคาสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวสูงขึ้น

นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญทางด้านกีฬา เคยดำรงตำแหน่งสำคัญ ๆ หลายตำแหน่ง ตั้งแต่รองประธานกรรมาธิการการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้จัดการทีมของสโมสรฟุตบอลนครราชสีมา มาสด้า (สวาทแคท) เป็นประธานสโมสรวอลเลย์บอลนครราชสีมา วีซี และเป็นประธานสโมสรกีฬาลีลาศจังหวัดนครราชสีมา จากความรู้และประสบการณ์ที่มีเชื่อว่าจะสามารถทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนได้เป็นอย่างดี