'พีระพันธุ์' เชิญ 'ก้าวไกล' สนทนาแก้ปัญหาด้านพลังงานหลากมุม ปลุกบรรยากาศการเมือง 'สร้างสรรค์-รับฟัง' เพื่อประโยชน์คนไทย

ร่วมเดือนกว่าๆ หลังได้รัฐบาลใหม่ ประเด็นการเมืองไทย ยังมีเรื่องระอุให้ติดตามไม่เว้นวัน ทั้งนโยบายหลายก๊อกที่ยังรอคำตอบเคาะ เพื่อฝ่าคำค้าน นักวิชาการ และกระแสดรามาการเมืองที่ซัดเท...

ทว่า ควันหลงการเมืองไทยใต้หมอกแห่งความจัดแย้ง ก็ยังมีการเมืองในเชิงสร้างสรรค์ ให้เห็นอยู่บ้าง .
โดยในช่วงปลายเดือนก่อน (22 ก.ย.66) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ทำหนังสือด่วน เพื่อเชิญ นายศุภโชติ ไชยสัจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เข้าหารือที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 26 ก.ย.ช่วงบ่าย เหตุจากวันที่ 21 ก.ย. นายศุภโชติได้ยื่นกระทู้สดด้วยวาจาถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน สภา เกี่ยวกับปัญหาพลังงาน แล้ววันนั้นนายพีระพันธุ์ไม่ได้เข้าร่วมประชุมสภา เนื่องจากติดภารกิจที่จังหวัดชุมพร

บรรยากาศแบบนี้ มิค่อยได้เกิดขี้นบ่อยครั้งในจังหวะอุณหภูมิการเมืองระอุ โดยเฉพาะกับคนการเมืองที่อยู่ต่างขั้วต่างพรรคกันที่จะได้มานั่งประจันหน้ากันเพื่อคุยและถกแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน

การประชุมในวันนั้น นายพีระพันธุ์ ได้ให้เกียรติ สส.ก้าวไกล ด้วยการเชิญผู้เกี่ยวข้องกับการลดราคาพลังงานของกระทรวงพลังงานมาหารือ ประกอบด้วย นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู รองปลัดกระทรวงพลังงาน, นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน, น.ส.นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน และ นางพัทธ์ธีรา สายประทุมทิพย์ รองอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน

ขณะเดียวกัน ก็ได้เชิญ นายวรภพ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และนายเดชรัตน์ สุขกำเนิด ผอ.ศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต พรรคก้าวไกล มาร่วมหารือในครั้งนี้ด้วย

ในห้องประชุม นายศุภโชคและคณะ ได้สอบถามถึงความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายของกระทรวงพลังงาน ทั้งกรณีที่รัฐบาลลดราคาไฟฟ้าลงเหลือหน่วยละ 3.99 บาท รวมถึงแสดงความเป็นห่วงเรื่องภาระระยะยาวหลังการยืดหนี้ของ กฟผ.ออกไปจนกลายเป็นภาระของประชาชน

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย และส่วนหนึ่งที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยขอให้รัฐบาลพิจารณาให้กลุ่มปิโตรเคมีที่ได้ประโยชน์จากราคาก๊าซในอ่าวไทย แต่ประชาชนกลับต้องรับภาระต้นทุนก๊าซจากต่างประเทศในการผลิตไฟฟ้า เปลี่ยนมาเฉลี่ยต้นทุนจากแหล่งก๊าซธรรมชาติทั้ง 2 แห่ง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และประเด็นเรื่องแผน PDP ที่ขอให้รัฐบาลเปิดโอกาสให้นักวิชาการภาคประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย

หลังได้รับฟังข้อเสนอจากฝั่งก้าวไกล นายพีระพันธุ์ กล่าวกับนายศุภโชคและคณะในวันนั้นว่า หลังจากตนเข้ารับตำแหน่ง รมว.พลังงาน ก็ได้มอบนโยบายจากมุมมองที่ว่า พลังงานไม่ใช่เรื่องธุรกิจ แต่ให้มองเป็นเรื่องของความมั่นคงเรื่องความเป็นอยู่ของประชาชน และเป็นความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ดังนั้นจึงต้องหาความสมดุลและความเหมาะสมของทั้งสองฝ่าย

ฉะนั้น ประเด็นที่เป็นห่วงเรื่องปัญหาค่าไฟในระยะยาว รัฐบาลก็จะไม่ได้หยุดแค่การลดราคาไฟฟ้าราคานี้เท่านั้น แต่เนื่องจากเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องเร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนในระยะสั้น จึงต้องรีบทำก่อน โดยส่วนที่สามารถลดราคามาได้เป็นเพราะขอยืดหนี้จาก กฟผ.ออกไปและส่วนของต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ลดลง จึงทำให้สามารถลดราคาค่าไฟให้ประชาชนลงได้อีก

รมว.พลังงาน ยังกล่าวอีกว่า กรณีของราคาก๊าซธรรมชาติที่ประเทศไทยนำมาใช้ผลิตไฟฟ้า ซึ่งมี 2 ส่วนคือนำเข้าจากต่างประเทศและส่วนได้มาจากอ่าวไทยเป็นนโยบายที่ตนได้นำเสนอมาก่อนหน้านี้ และทางคณะของพรรคก้าวไกลก็เห็นด้วย โดยเสนอว่าให้นำมาเฉลี่ยต้นทุนเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ราคาค่าไฟที่เป็นธรรม แทนที่จะนำไปขายให้กลุ่มปิโตรเคมีในราคาถูกซึ่งจะได้ดำเนินการต่อไป

เมื่อกล่าวถึง แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย หรือ PDP ที่ทางคณะพรรคก้าวไกลเสนอให้นักวิชาการภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม รวมถึงประเด็นการศึกษากำลังไฟฟ้าสำรองที่จะเกิดในอนาคต ตนจะรับโจทย์ดังกล่าวไปศึกษาจัดทำเป็นนโยบายต่อไป

รมว.พลังงาน ย้ำอีกด้วยว่า ยังมีกฎหมายเดิมด้านพลังงานอีกหลายเรื่องต้องได้รับการแก้ไข เพราะกฎหมายหมายฉบับดำเนินการมาในอดีต แต่ปัจจุบันสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป จึงเห็นว่าต้องรื้อตรวจสอบแก้ไขให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่ออำนวยต่อการจัดหาพลังงานให้กับประเทศ และให้ประชาชนได้ใช้พลังงานในราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรมต่อไป

ภายหลังจากการประชุมกับ รมว.พลังงาน ด้าน นายศุภโชติ ไชยสัจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ก็ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมว่า ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี พร้อมทั้งยอมรับว่า นายพีระพันธุ์รับฟังปัญหาของประชาชน ที่ฝากผ่านตนมาทั้งเรื่องราคาค่าไฟระยะยาว, มาตรการรองรับ, การปรับโครงสร้างราคาใหม่, การจัดทำแผน PDP ที่โปร่งใส

"รมว.พลังงาน รับที่จะนำข้อเสนอของพรรคก้าวไกล ไปพิจารณา ทั้งเรื่องค่าไฟ ราคาน้ำมัน หรือปัญหาด้านพลังงานอื่นๆ ที่จะต้องตอบคำถามประชาชนให้ได้ และอธิบายให้เข้าใจ ถือว่าเป็นการประชุมที่บรรยากาศเป็นไปด้วยดี" นายศุภโชติ กล่าว

ก็หวังว่า จากเหตุการณ์นี้ จะทำให้มิติการเมืองไทยยุคใหม่ เดินหน้าด้วยการร่วมกันทำงานอย่างสร้างสรรค์ในทุกๆ ฝ่าย และในทุกๆ กระทรวง ดั่งกรณีของกระทรวงพลังงานที่พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะด้วยความจริงใจ เพราะเป้าหมายสุดท้าย คือ ประโยชน์ของประชาชน ที่เชื่อว่าทุกภาคส่วนย่อมอยากให้เกิดผลลัพธ์อันดีต่อประเทศ...