‘เศรษฐา’ มั่นใจ!! ฐานเสียง ‘พท.’ แข็งแกร่ง สู้กระแส ‘ก้าวไกล’ ได้ ชี้ ผลโพลหลักพันไม่ใช่สะท้อนเสียงของประชาชนทั้งประเทศ

(6 พ.ค. 66) ที่จังหวัดนครราชสีมา นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย (พท.)  และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งจะแก้เกมกับกระแสของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ที่มาแรงทุกโพลอย่างไรว่า คงไม่มีอะไรแก้ เพราะโพลของเราก็มาดี เรายังมั่นใจอยู่ว่าเราจะได้เกินครึ่งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม สำหรับกระแสที่ออกสื่อย้ำๆ นั้นก็เป็นแค่กระแส เพราะเวลาลงพื้นที่แล้วโพลของเราก็ยังมีและดีอยู่แล้ว

เมื่อถามต่อว่าแต่โพลก็มีผลต่อการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่แน่ใจ ตนคิดว่าขึ้นอยู่กับพรรคและนโยบาย รวมถึงผู้นำ ตอนนี้ถึงเวลาแล้ว จะเล่นกันไม่ได้ ไม่ใช่สนามที่ประลองฝีมือ แต่เป็นของคนที่มีประสบการณ์หรือพรรคที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ว่าสามารถทำนโยบายที่เสนอเป็นจริงได้ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นเรื่องที่เราต้องตอกย้ำต่อไป อีกทั้งโพลบางโพลก็ทำแค่ 1-2 พันคน เราควรเอาโพลที่ทำเป็นแสนมาเป็นตัวชี้วัดดีกว่า

เมื่อถามว่า ยังมั่นใจว่ากระแสของพรรคก้าวไกลยังสู้ฐานเสียงของเพื่อไทยไม่ได้ใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า “สู้ไม่ได้ เรามั่นใจครับ เรามั่นใจความแข็งแกร่งของฐานเสียง มั่นใจในนโยบาย มั่นใจในความที่เราเป็นสถาบันทางการเมืองมานาน ที่พิสูจน์ได้ว่าเราทำได้จริง”

เมื่อถามต่อว่า ตอนนี้ฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยยังเพียงพอทำให้แลนด์สไลด์ได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับว่าแลนด์สไลด์หมายความว่าอะไร ถ้า 200 กลางๆ ขึ้นไป ตนคิดว่าตนได้อยู่ หรือ 280 เราก็ยังมั่นใจอยู่ แต่จะถึง 300 หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์โค้งสุดท้ายว่าจะเป็นเช่นไร แต่ก็ยังมีความหวังอยู่

เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์หรือไม่ ว่าทำไมช่วงโค้งสุดท้ายกระแสก้าวไกลยังพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นเรื่องของโซเชียลส่วนหนึ่ง และอาจเป็นช่วงจังหวะที่ผลโพลออกมา แต่อย่างที่เรียนไปว่า โพลบางโพลสำรวจแค่ 2,000-2,500 คน ซึ่งประเทศไทยมีประชากรที่สามารถโหวตได้ประมาณ 39 ล้านคน ต้องเอานโยบายเป็นหลัก ประวัติศาสตร์ การพิสูจน์ฝีมือมาโดยตลอด และผู้นำที่เคยพิสูจน์ฝีมือมาแล้ว ทีมงานที่อยู่ด้วยกันมาโดยตลอด ตรงนี้เป็นสิ่งที่พี่น้องประชาชนให้ความสำคัญมากที่สุด

เมื่อถามว่า กระแสที่เทไปทางพรรคก้าวไกลส่วนหนึ่งมีการวิเคราะห์ว่าเป็นเพราะแคนดิเดตนายกฯ ของเพื่อไทยมี 3 คน และไม่ชัดเจนว่าเลือกเพื่อไทยแล้วจะได้ใครเป็นนายกฯ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าเป็นประเด็น ตนคิดว่าจะเป็นจุดแข็งมากกว่า เพราะจริง ๆ เรามีทีมที่แข็งแกร่ง ทั้ง 3 คนมีจุดแข็งแตกต่างกัน ดังนั้น นายกฯ จากพรรคเพื่อไทยก็คือ 1 ใน 3 คน รอผลการเลือกตั้งออกมาก่อน ใจเย็น ๆ

ด้านนายประเสริฐ จันทรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการทำโพลของพรรคเพื่อไทยว่า เรายังมั่นใจในแนวทางของพรรคเพื่อไทยอยู่ โพลมีหลายสำนัก เพื่อไทยก็มีโพลภายในของเราเอง ซึ่งโพลภายในของเราก็ยังมีระดับความมั่นใจที่สูงและแลนด์สไลด์อยู่

เมื่อถามถึงกรณีที่พื้นที่โคราชเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่มีการแข่งขันสูงในหลายพรรค นายประเสริฐ กล่าวว่า วันนี้เพื่อไทยมั่นใจอย่างมาก โคราช 16 เขตตนว่าเราได้เกือบหมด มั่นใจถึงขนาดนั้นเลย ทั้งนี้ พื้นที่ที่เป็นอยู่ขณะนี้นโยบายพรรคเพื่อไทยได้รับการตอบรับอย่างดีมาก ไม่ว่าจะเป็นนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต หรือเงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท ฉะนั้น สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้โหวตเตอร์ได้ตัดสินใจ เราเชื่อมั่นในนโยบาย ซึ่งในโคราชนโยบายยังเป็นสิ่งที่ชี้นำการตัดสินใจ

เมื่อถามถึงพรรคภูมิใจไทยและพรรคพลังประชารัฐ ที่เป็นพรรครัฐบาลในพื้นที่โคราช นายประเสริฐ กล่าวว่า ในพื้นที่เป็นการต่อสู้กันระหว่างพรรคพลังประชารัฐ ภูมิใจไทยและเพื่อไทย ครั้งนี้เรามั่นใจในนโยบายและผู้สมัครของเรา ที่เราได้คัดมาเป็นระยะเวลานานพอสมควร และแคนดิเดตนายกฯ ของเราก็ชัดเจน