เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 66 นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา กล่าวถึงสถานการณ์ในเมืองไทย โดยเฉพาะกับการเลือกตั้งที่จะมาถึง ว่ามีกระบวนการจากต่างชาติที่กำลังเดินเกมเพื่อให้ผลการเลือกตั้งเป็นไปอย่างที่ตนต้องการ ผ่านรายการ ‘แซ่บ หรอย อร่อย ลำ’ ว่า...

“เวลาดีเบตกันพรรคการเมืองและคนส่วนใหญ่จะไม่พูดถึงปัจจัยภายนอกที่เข้ามาแทรกแซง ซึ่งสำคัญมาก และผมมองว่าถ้ามีโอกาสก็อยากให้ไปดูคลิปของฝรั่งคนหนึ่งชื่อ ไบรอัน เบอร์เลติก เขาเคยเป็นทหารทหารอเมริกัน และผมเคยได้พูดคุยกับเขา โดย ไบรอัน เป็นคนพูดเอง ว่ามีกระบวนการนี้อยู่ เรียกว่าถ้าเป็นคนไทยด้วยกันเองพูด ก็ไม่เชื่อหรอก ต้องให้ฝรั่งมาพูด”

นายนริศโรจน์ กล่าวต่อว่า “ไบรอัน พูดว่า การเมืองไทยถูกแทรกแซง มีต่างชาติ มหาอำนาจพยายามเข้ามาแทรกแซง และเข้ามาชี้นำ เพื่อให้ผลการเลือกตั้งเป็นไปตามผลประโยชน์ที่ตัวเองต้องการ อันนี้ฝรั่งก็รู้ นักการเมืองระหว่างประเทศก็รู้ แต่ว่าเด็ก ๆ ไม่รู้ เด็ก ๆ กลายเป็นเครื่องมือ”

พร้อมได้ยกตัวอย่างเสริมว่า “ตอนที่เกิดเหตุวุ่นวายที่ฮ่องกง ที่เขาเรียกว่า ‘ฮ่องกงโมเดล’ เด็ก ๆ ที่นั่นก็เหมือนตอนนี้ ถูกปั่นหัว ซึ่งเด็กฮ่องกง (ตัวปั่น) ในยุคนั้น ต้องถูกจีนใช้ไม้แข็ง จนบางคนต้องลี้ภัยกันไปหมด เพราะป่วนกันจนเด็ก ๆ ถึงขั้นร้องเพลงชาติสหรัฐฯ โบกธงสหรัฐ เพื่อต้องการให้สหรัฐฯ เข้ามาปลดปล่อยฮ่องกง”

นายนริศโรจน์ ได้ตั้งคำถามต่อกับประเด็นนี้ด้วยว่า “แล้วคิดว่าเป็นไปได้หรือ ที่จีนจะยอม ขนาดไต้หวันจีนยังไม่ยอมเลย คือจีนเขาถือเรื่องอธิปไตยเป็นเรื่องสำคัญ ทุกประเทศก็เช่นกัน มันก็เหมือนกับถ้ามีใครไปบอกว่าให้ Texas แยกตัวออกมาจากสหรัฐฯ ซะ คุณคิดว่าคนอเมริกันจะคิดยังไง บทบาทของตำรวจโลก ที่ไม่ได้สร้างความชอบธรรม มันก็ยิ่งจะทำให้เกิดการแบ่งแยก และสงครามมันก็จะเกิดขึ้นตามมา”

นายนริศโรจน์ เล่าย้อนไปว่า “สมัยภัยคอมมิวนิสต์น่ากลัวมาก คอมมิวนิสต์ถูกว่าภาพเป็นปีศาจ แต่โลกมันผกผัน จากปีศาจที่เราเคยกลัว กลายเป็นไม่น่ากลัวเท่ากับ American Hero หรือ Super Marvel ต่าง ๆ ที่แสดงตัวว่าฉันคือผู้พิทักษ์โลก แต่อย่าลืมว่า ผู้พิทักษ์โลก เขาไปที่ไหนก็พินาศที่นั่น”

นายนริศโรจน์ ได้เล่าสมัยที่ตนเรียนสเปน ด้านการเมืองว่า “อาจารย์ผมเคยยกตัวอย่างว่า ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา สหรัฐฯ เคยชนะศึก หรือชนะใจใครที่ไหนบ้าง ไม่มีเลยนะ ไปที่ไหนแตกพ่ายหมดเลย เวียดนาม, อิหร่าน, อินโดจีน นี่แตกหมด และอเมริกาสนับสนุนแต่ละคน ก็ล้วนแล้วแต่เป็นทรราชทั้งสิ้น เฉกเช่นเดียวกันกับของไทยในยุค 14 ตุลาคม สนับสนุนถนอม, ประภาส สนับสนุนมาร์กอส ทั้งหมดนี่เป็นทรราชหมดเลย

“ทว่าในปัจจุบัน โลกพลิกกลับหมดแล้ว จีนกลายเป็นกาวใจ ทำให้ซาอุฯ และอิหร่าน จับมือกันได้ และตอนนี้ล่าสุด จีนกำลังจะเป็นกาวใจให้ เซเลนสกี้ และ ปูติน จับมือกันเป็นคู่ต่อมา โดยสัญญาณนี้เกิดขึ้นเมื่อประธานาธิบดีเซเลนสกี แห่งยูเครน ได้ต่อสายตรง สีจิ้นผิง ว่าจะพยายามหาทางลง ซึ่งถ้าจีนทำสำเร็จ ก็จะเป็นอีกบทบาทสำคัญที่ทำให้สหรัฐฯ ต้องคิดหนักในฐานะมหาอำนาจตัวจริงของโลกที่ถูกเปลี่ยนมือ”

ท้ายที่สุด นายนริศโรจน์ ได้มองย้อนกลับมาที่ประเทศไทยว่า “วันนี้ประเทศไทย กลายเป็นจุดประลองกำลังของการพยายามขยายอิทธิพลครอบงำ เพราะฉะนั้นอยากให้เด็ก ๆ ลูก ๆ หลาน ๆ มองให้มีมิติที่ลุ่มลึก มองในมิติที่กว้าง อย่ามองมิติแบน ๆ แค่เขาจับเปิดหัว จับอะไรยัดใส่หัวแล้วก็เชื่อ เพราะว่าหลายเรื่องแล้วที่อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายตรงข้ามปั่นจนสำเร็จ เช่น ปั่นว่าในหลวง ร.10 จะเอาสนามม้านางเลิ้งมาสร้างเป็นวัง เป็นฮาเล็ม ซึ่งสุดท้ายก็ปรากฏชัดเจนแล้วว่า ถูกนำมาพัฒนาให้กลายเป็นสวนสาธารณะ ส่วนเขาดินเดิม ท่านก็ให้ย้ายออกไป เพราะอีกหน่อยจะทำเป็นโรงพยาบาล และให้สวนสัตว์ย้ายไปอยู่ที่ใหม่ หรือบางคนที่บอกว่าท่านใช้ภาษีประชาชน แต่ความจริงท่านก็เสียภาษีเหมือนชาวบ้านทั่วไป และก็ไม่รับเงินรายปีจากรัฐบาลด้วย เพราะท่านมีเงินปันผลต่าง ๆ แถมยังเสียภาษีเยอะกว่าใครอื่นด้วย”

---

ที่มา: https://www.youtube.com/watch?v=X1PViAYibvU