‘ไต้หวัน’ จับตา ‘กองเรือบรรทุกเครื่องบินจีน’ อย่างใกล้ชิด หลังกองทัพจีนประกาศซ้อมรบใกล้กับทางตอนใต้ของเกาะ

เมื่อวันที่ 24 เม.ย.66 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า กระทรวงกลาโหมไต้หวันจับตาใกล้ชิดกองเรือบรรทุกเครื่องบินของกองทัพจีน เคลื่อนไหวอยู่ห่างจากเกาะไต้หวันไปทางตะวันออกเฉียงใต้เป็นระยะทาง 120 ไมล์ทะเล หรือประมาณ 220 กิโลเมตร

ความเคลื่อนไหวของกองทัพไต้หวันเกิดขึ้นหลังกองเรือบรรทุกเครื่องบินที่มีเรือซานตง เรือบรรทุกเครื่องบินหนึ่งเดียวของจีน เป็นเรือธงแล่นผ่านช่องแคบบาชี (อยู่ระหว่างไต้หวันกับฟิลิปปินส์) ออกสู่มหาสมุทรแปซิฟิกเพื่อเข้าร่วมภารกิจซ้อมรบ

โดยเรือซานตงของจีนแล่นผ่านช่องแคบดังกล่าวไปในช่วงเดียวกันกับการพบกันของประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ผู้นำหญิงของไต้หวัน กับนายเควิน แม็กคาร์ธี ประธานสภาคองเกรสคนใหม่จากพรรครีพับลิกัน ที่นครลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

ซึ่งต่อมา กองทัพจีนประกาศเปิดปฏิบัติการซ้อมรบในมหาสมุทรแปซิฟิก หลังประธานาธิบดีไช่เดินทางกลับถึงเกาะไต้หวัน

แถลงการณ์กระทรวงกลาโหมไต้หวัน ระบุว่า กองเรือบรรทุกเครื่องบินของจีนยังคงอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก เพื่อร่วมภารกิจซ้อมรบห่างจากแหลมเอ๋อหลวนปี๋ ซึ่งเป็นส่วนใต้สุดของเกาะไต้หวันไปทางตะวันออกเฉียงใต้ ราว 120 ไมล์ทะเล หรือประมาณ 220 กม.

ทางการไต้หวันยืนยันว่า กองทัพไต้หวันจับตาความเคลื่อนไหวของกองเรือดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และเตรียมการอย่างเหมาะสมแล้วเพื่อเตรียมรับมือหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น

รายงานระบุว่า ปฏิบัติการซ้อมรบครั้งก่อนหน้าของกองทัพจีนนั้น จีนแสดงแสนยานุภาพด้วยการปล่อยเครื่องบินรบขึ้นจากเรือบรรทุกเครื่องบินซานตง นอกจากนี้ เรือชานตงยังเคยแล่นผ่านช่องแคบไต้หวันเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนการหารือกัน ระหว่างประธานาธิบดีไช่กับผู้นำสหรัฐฯ เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมาด้วย

ทั้งนี้ ทางการจีนถือว่าเกาะไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีนอย่างมิอาจแบ่งแยกได้ โดยจีนพยายามใช้อิทธิพลทั้งการเมืองระหว่างประเทศและการทหาร บีบคั้นให้ไต้หวันถูกโดดเดี่ยวจากประชาคมโลก เพื่อให้ชาวไต้หวันยอมศิโรราบต่อความประสงค์ของจีน

อย่างไรก็ตาม ไต้หวันยังคงมีพันธมิตรที่สำคัญอย่างสหรัฐฯ ที่มีพันธะสัญญาตามกฎหมายสหรัฐฯ ในการช่วยเหลือไต้หวันป้องกันตัวเองจากการรุกรานด้วยกำลังรบ และผู้นำหญิงของไต้หวัน ยืนกรานว่า ผู้ที่จะกำหนดอนาคตของเกาะไต้หวันต้องเป็นประชาชนชาวไต้หวันเท่านั้น


ที่มา : https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_7628738