เปิดใจ ‘พรหมภัสสร’ คู่ชีวิตผู้เคียงข้าง ‘จตุพร พรหมพันธุ์’ เหตุผลสำคัญที่ทำให้ 'ตู่' กล้าสู้ แม้ไม่เหลืออะไรเลยก็ตาม

(22 เม.ย.66) ผู้ใช้ติ๊กต๊อก บัญชี ‘อัศวิน ศรีพูแพน’ ได้โพสต์คลิปวิดีโอของ ‘คุณพรหมภัสสร ณ กาฬสินธุ์’ ภรรยาของ ‘ตู่’ หรือ ‘คุณจตุพร พรหมพันธุ์’ ซึ่งเคยเปิดใจถึงพี่ตู่ในหลายๆ แง่มุมผ่านรายการหนึ่ง ความว่า…

“ในเรื่องการต่อสู้ เขา (จตุพร) เป็นนักสู้จริงๆ เขาสู้จนลืมนึกถึงครอบครัว สู้จนลืมนึกถึงตัวเอง เพราะฉะนั้นเราต้องคอยให้กำลังใจเขา โดยปกติก็จะแลกเปลี่ยนกันตลอด มีทุกเรื่องก็จะปรึกษากัน คือพี่ตู่มาปรึกษาแล้วเราก็จะช่วยคุยช่วยดู ส่วนใหญ่จะอยู่เบื้องหลัง มีอะไรขึ้นมาก็จะบอกเล่ากันเดี๋ยวนั้น และก็จะคอยปรามคอยเบรกอะไรที่มันเกินไป พี่ตู่เขาก็จะรับฟัง พี่ตู่เป็นผู้รับฟังที่ดี”

เกี่ยวกับเรื่องมนุษยสัมพันธ์ พรหมภัสสร เล่าว่า "ส่วนตัวในบ้านพี่ตู่จะเป็นคนที่น่ารัก เป็นคนยิ้มง่าย อารมณ์ดี มีอารมณ์ขัน อารมณ์ขันเหมือนกันกับคุณณัฐวุฒิเลย แต่พอเวลาขึ้นเวทีก็จะเป็นอีกรูปลักษณ์นึง ซึ่งออกมาดูว่าแข็งกร้าว แต่จริงๆ แล้วคนที่ได้ใกล้ชิดพี่ตู่ จะบอกว่าพี่ตู่ไม่ใช่อย่างงั้นเลย 

เกี่ยวกับความไม่ยึดติด พรหมภัสสร กล่าวว่า "ช่วงที่เรารู้จักกันมาตั้งแต่พี่ตู่ไม่มีชื่อเสียงไม่มีใครรู้จัก ยังเป็นรองโฆษกพรรคไทยรักไทย เป็นรองของท่านอดิศร เพียงเกษ พี่ตู่ก็ไม่เคยออกมาตอบโต้อะไร เวลาเขาจัดลำดับที่นั่ง พี่ตู่จะนั่งอยู่ท้ายก็ไม่ได้เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจอะไร พี่ตู่ทนอุปสรรคฟันฝ่าบากบั่นมาจนเป็นพี่ตู่ในวันนี้ จนเป็นคุณจตุพร พรหมพันธุ์ในวันนี้

ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด พรหมภัสสร ก็บอกว่า "ตัวเราเป็นกำลังใจดูอยู่เงียบๆ แม้วันนึงที่พี่ตู่ไม่มีตำแหน่งอะไรเลย ทางบ้านก็ไม่เสียใจ เพราะเรารู้ว่าเขามาได้ขนาดนี้ เขาเก่งมากแล้ว พี่ตู่ไม่เป็นอะไรก็ได้ พี่ตู่ก็ยังเป็นพี่ตู่ที่มีเพื่อนรักอยู่เหมือนเดิม"

เมื่อพูดถึงเรื่องชีวิตคู่ เธอเล่าว่า "ตัวทะเบียนสมรสไม่ใช่หลักประกันว่าชีวิตคู่จะอยู่ด้วยกันไปตลอด โดยช่วงแรกที่คุยกัน พี่ตู่บอกว่า จะแต่งงานก็ได้นะ จะจดทะเบียนสมรสก็ได้นะ แต่เราเป็นฝ่ายเลือกเองว่า ไม่ต้องแต่งหรอกและก็ไม่ต้องจด และก็บอกว่าเราอยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆ เหมือนเพื่อนกันดีกว่า”

เมื่อถามว่าทำไมถึงไม่จดทะเบียน พรหมภัสสร เล่าว่า "เหตุที่เป็นฝ่ายเลือกเองว่าไม่จดและไม่แต่ง เพราะมันมีตัวอย่างให้เห็นเยอะ ว่าการแต่งงานหรือการจดทะเบียนสมรส ไม่สามารถที่จะทำให้ผู้หญิงกับผู้ชายสองคนจะอยู่ด้วยกันไปตลอดรอดฝั่ง กลับกันถึงจะไม่ได้จดก็มีหลายคู่ที่อยู่ด้วยกันแบบเพื่อนกันไปจนตลอดชีวิต คือทะเบียนสมรสมันไม่ใช่สิ่งอะไรที่มันจีรังยั่งยืน มันอยู่ที่ใจมากกว่า ถ้าต่างคนต่างเข้าใจกันแล้วตรงนั้นมันก็ไม่จำเป็น"

เมื่อพูดถึงโซทองคล้องใจ เธอบอกว่า "ชีวิตช่วงนี้ของน้องปันปันเป็นช่วงเรียนรู้ เขาก็จะคิดว่าที่พ่อไม่อยู่บ้านคือพ่อมีงาน พ่อไปทำงาน พ่อไม่อยู่ บางวันพ่ออยู่ในบ้านลูกก็ยังบอกว่าพ่อไปทำงานเพราะเขาไม่เห็น คือเขาคิดไปเองของเด็กเป็นช่วงเรียนรู้ จะโทรหาพ่อ ก็บอกให้แม่โทรหาพ่อ พอแม่บอกว่าพ่อเขาอยู่นะลูก พ่ออยู่อีกห้องหนึ่งไงลูก เขาก็ถึงจะเข้าไปหา ซึ่งพี่ตู่นี่ถ้าเกิดได้เจอลูกเขาก็จะหายเหนื่อย ได้กอดได้หอมก็หายเหนื่อยแล้ว"

พรหมภัสสร ทิ้งท้ายว่า "พี่ตู่เคยให้สัมภาษณ์ที่ Spring News ครั้งนึงว่า ครอบครัวนี้คือชีวิตผม น้องปันปันเป็นลูกที่พี่ตู่เลี้ยงดูมากับมือ เขาก็จะบอกว่า พ่อชื่อจตุพร นามสกุล พรหมพันธุ์ พ่อเป็นเสื้อแดง พ่อเรียกหาประชาธิปไตย สะท้อนชัดจนเด็กอายุ 2 ปี 3 เดือนพูดคำว่าประชาธิปไตยได้แล้ว เพราะว่ารายการชูธงของพ่อเขานั้น เขาดูตลอด แล้วบอก คุณพ่อมาแล้ว มาดูแล้วตบมือเวลามีเพลง เป็นแฟนคลับตัวยง” 


ที่มา : https://vt.tiktok.com/ZS8cRgc4C/