‘มิ่งขวัญ’ โชว์กึ๋น!! พิชิต 'ทุนสีเทา' พร้อมเปลี่ยนให้เป็นรายได้ ถามจี้ใจดำ พท. แจกเงินดิจิทัล 1 หมื่น มีแผนรัดกุมดีหรือไม่?

เมื่อวานนี้ (20 เม.ย.66) นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ คณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้กล่าวถึงแนวทางการแก้ปัญหาทุนจีนสีเทา พร้อมทั้งแปลงให้เป็นการหารายได้เข้าประเทศ และระบบตรวจสอบทหาร ตำรวจ เมื่อกระทำความผิดของพรรคพลังประชารัฐ ไว้ที่เวทีดีเบตของช่อง MCOT ในรายการ เจาะลึกเลือกตั้ง 66 โดยระบุว่า…

มูลเหตุของปัญหานี้ ต้องย้อนกลับไปดูที่ตัวแปรก่อน อย่างแรกคือ ปัจจุบันคนหนุ่มคนสาวในไทยมีน้อย เนื่องจากอัตราการเกิดลดลง จึงจำเป็นต้องมีการดึงแรงงานต่างด้าวเข้ามาช่วยในจุดนี้

อย่างที่สองคือ ประเทศที่มีประชากรมากระดับพันล้านคน ที่ปฏิเสธไม่ได้คือ ประเทศจีน คนจีนเข้ามาในประเทศไทยมากมาย ซึ่งมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ซึ่งในส่วนของ 'ทุนจีนสีเทา' ก็ปฏิเสธได้ยากที่จะไหลเข้ามาในประเทศไทยพอสมควร ซึ่งจากนี้ไทยต้องเข้มงวด เด็ดขาด กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ตรวจหมดทุกอย่าง ทั้งที่มาของเงิน แหล่งเงิน หากชี้แจงไม่ได้จะยึดเป็นรายได้ของรัฐทั้งหมด

“ผมบอกเลยนะครับว่า ผมจะสร้างรายได้ให้ประเทศอย่างมหาศาลจากทุนจีนสีเทา หรือทุนไหนก็ตามที่เป็นสีเทา ขออำนาจศาลพิพากษา ขอให้มีหน่วยงานพิเศษตั้งขึ้นมาเพื่อตรวจสอบ เพราะที่มีอยู่ปัจจุบันอาจจะไม่เพียงพอ และผมบอกเลยว่าต้องทำอย่างรวดเร็ว นี่คือเคล็ดลับในการหารายได้เข้าประเทศที่ดีที่สุด” นายมิ่งขวัญกล่าว 

ต่อมานายมิ่งขวัญได้พูดถึงเรื่องการกลืนชาติ โดยระบุว่า "เมื่อคนจีนเข้ามาในประเทศไทยแล้ว เราไม่รู้ว่าเขาจะเข้ามาทำอะไร แต่สิ่งที่เรายอมให้เกิดขึ้นไม่ได้คือการกลืนชาติ เพราะประเทศไทยต้องเป็นประเทศไทย เราจะไม่ยอมให้ใครเข้ามาครอบงำ แม้เราจะเป็นเมืองเล็กๆ มีประชากรแค่ 60-70 ล้านคน แต่ยังไงผมก็ไม่ยอมเด็ดขาด" พร้อมย้ำด้วยว่า "บอกเลยนะครับว่ากรีดเลือดผมออกมา เลือดรักชาติเข้มข้น"

หลังจากนั้นนายมิ่งขวัญได้กล่าวถึงประเด็นบุคลากรด้านความมั่นคง โดยระบุว่า "ไม่รู้ว่าคนอื่นคิดอย่างไร แต่ผมคิดว่าได้เวลาที่จะต้องปลุกทุกคนแล้วว่า ทุกคนต้องทำงาน ผมอาจจะคิดต่างจากคนอื่น เช่น ผมคิดว่าเราต้องมีหน่วยงานตำรวจเพิ่มขึ้นมาอีก เพื่อเข้มงวดต่อเข้าหน้าที่ของรัฐ ไม่ใช่ตำรวจกลายเป็นโจรเสียเอง พอมีความผิดก็มานั่งพิจารณาและไล่ออก วนไปแบบนี้ไม่ได้ 

“ดังนั้น ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องทุนจีนสีเทา หรือทุนสีเทาใดๆ ก็ตามเลย ผมจะเด็ดขาด ท่านยังไม่เคยเห็นบทนี้ของผม ไว้รอผมเป็นรัฐมนตรี หรือรองนายกฯ ก่อน” นายมิ่งขวัญกล่าว 

ช่วงหนึ่งของรายการได้เปิดโอกาสให้ผู้ดีเบตได้ตั้งคำถามถึงผู้ร่วมดีเบตท่านอื่นๆ ผ่านการจับสลาก ซึ่งนายมิ่งขวัญจับสลากได้พรรคเพื่อไทย โดยตั้งคำถามต่อตัวแทนพรรคอย่าง หมอมิ้ง-พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ในหัวข้อ 'เงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท' ที่กำลังเป็นประเด็นกันอยู่ในขณะนี้ว่า "เรื่องดิจิทัลวอลเลตคือ สิ่งที่ผมสงสัยเหมือนๆ กับคนไทยทั้งประเทศ อยากรู้ว่ามันเป็นอย่างไรมาอย่างไร? เพราะหากฟังฝั่งหนึ่งก็รู้สึกดี ให้เงินประชาชน แต่พอคิดอีกด้านก็มีคำถามครับว่า (หนึ่ง) จะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย (สอง) กำหนดขอบเขตการใช้จ่ายอย่างไร? (สาม) มีมาตรการป้องกันเงินไหลออกนอกระบบหรือไม่?" ซึ่งหมอมิ้งก็ได้ตอบคำถามดังกล่าวด้วยภาพกว้างๆ และไม่ได้ลงรายละเอียดถึงตัวเลขที่จะมาอุดหนุนการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท แค่แจ้งว่าเตรียมไว้แล้ว...

ทำให้นายมิ่งขวัญ กล่าวเชิงห่วงทิ้งท้ายว่า “หากเงินไหลออกนอกประเทศ เราไม่เจ๊งตายเลยหรือ?”