'ผู้นำยูเครน' หวั่น!! หลังเอกสารหลุดเพนตากอนเผย 'กระสุนระบบขีปนาวุธจะหมดเกลี้ยงในเดือน พ.ค.'

(11 เม.ย.66) ยูเครนจะใช้ขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศจนเกือบหมดภายในเดือนพฤษภาคม ตามรายงานของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ในวันจันทร์ (10 เม.ย.) อ้างอิงจากเอกสารลับของเพนตากอนที่รั่วไหลเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ และด้วยแนวโน้มต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่รัสเซียครองความได้เปรียบบนท้องฟ้า เคียฟจึงได้ร้องขอระบบป้องกันภัยทางอากาศเพิ่มเติมจากตะวันตกมานานหลายเดือนแล้ว

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ระบุว่ารายงานที่นำเสนอต่อเพนตากอนลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ระบุว่า ยูเครนกำลังยกระดับการใช้ขีปนาวุธบัคราว 69 ลูกต่อเดือน และขีปนาวุธเอส-300 จำนวน 200 ลูกต่อเดือน ด้วยอัตราการยิงเช่นนี้ กองกำลังยูเครนจะไม่เหลือกระสุนขีปนาวุธบัคใช้งานในช่วงปลายสัปดาห์นี้ และคลังกระสุนขีปนาวุธเอส-300 จะหมดลงในวันที่ 3 พฤษภาคม

การเสาะหาขีปนาวุธสำหรับแพลตฟอร์มอาวุธที่สร้างในยุคสมัยสหภาพโซเวียต ถือเป็นงานยากลำบากอย่างมากสำหรับเคียฟและบรรดาผู้สนับสนุนตะวันตก ทั้งนี้แม้อีกด้านหนึ่ง ยูเครนได้รับระบบต่อต้านอากาศยานไอริส-ที ของเยอรมนี 3 เครื่อง และระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานขั้นสูง NASAMS ของอเมริกา 8 เครื่อง แต่ระบบเหล่านั้นผลาญขีปนาวุธราวๆ 64 ลูกต่อเดือน และด้วยจำนวนที่มีน้อยนิด ทำให้พวกมันมีอาณาเขตไม่ครอบคลุมกว้างขวางเท่าเอส-300 ของยูเครน วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานโดยอ้างเอกสารหลุด

เพื่อชดเชยปัญหาขาดแคลน มีรายงานว่าพวกนักวางแผนด้านการทหารของสหรัฐฯ ประเมินว่ายูเครนจำเป็นต้องการไอริส-ที และ NASAMS อย่างน้อย 16 เครื่อง และระบบขีปนาวุธแพทริออตหรือระบบป้องกันภัยทางอากาศ SAMP-T จำนวน 12 เครื่อง ทั้งนี้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งอเมริกาอนุมัติประจำการระบบแพทริออต 1 ชุด ส่วนเยอรมนีรับปากอีก 1 ชุด ขณะที่ฝรั่งเศสและอิตาลีสัญญาจะมอบระบบ SAMP-T ชาติละ 1 ชุด อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีอันไหนที่ส่งถึงมือยูเครนเลย จากคำกล่าวของโฆษกกองทัพยูเครนที่ให้สัมภาษณ์กับวอลล์สตรีทเจอร์นัล

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เรียกร้องสหรัฐฯ และพันธมิตรให้จัดหาระบบป้องกันภัยทางอากาศเพิ่มเติมมาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยระบุว่าอาวุธยุทโธปกรณ์เหล่านี้ "มีความสำคัญลำดับหนึ่ง"

นอกจากนี้ เซเลนสกีและบรรดาผู้ช่วยของเขา ยังร้องขอเครื่องบินรบที่ผลิตโดยตะวันตก อย่างเช่นเอฟ-16 ของอเมริกา อย่างไรก็ตามแม้บรรดาชาติยุโรปบางส่วนบอกว่าพวกเขาเปิดรับความคิดดังกล่าว แต่ในส่วนของสหรัฐฯ จนถึงตอนนี้ยังคงปฏิเสธ

เพนตากอนยังไม่ออกมายืนยันว่ารายงานนี้เป็นของจริงหรือไม่ ซึ่งมันเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารลับทางทหารที่รั่วไหลออกมมาและถูกโพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเอกสารอื่นๆ ที่หลุดออกมานั้นได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับแผนการทำสงครามของสหรัฐฯ ในยูเครน เผยให้เห็นว่าพวกเขาสอดแนมดักฟังโทรศัพท์พันธมิตร และเนื้อหาที่อ่อนไหวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับยูเครน จีน ตะวันออกกลาง และก่อการร้าย