‘ประเดิมชัย’ เตรียมหาเสียง ผลักดันสร้าง ‘สถานพยาบาล’ ใกล้บ้าน แก้ปัญหาผู้ป่วยไม่ต้องเดินทางไกล จ่อลงพื้นที่ทุกวัน 6 โมงครึ่ง-1 ทุ่ม

(3 เม.ย.66) ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดง ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งเปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 3-7 เมษายนนี้

โดยเวลา 07.00 น. บรรยากาศวันแรก มีผู้สมัครหัวหน้าพรรค แกนนำพรรคและกองเชียร์ผู้สมัคร ส.ส. มาร่วมให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก โดยจอดรถที่มีป้ายหาเสียงริมถนน รอนำตัวเลขมาติดที่ช่องว่าง หลังจากทราบหมายเลขผู้สมัคร

ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ หรือบี ผอ.เลือกตั้งกรุงเทพมหานคร พรรคภูมิใจไทย และอดีต รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นำทีมผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต กทม. จำนวน 33 คน ขึ้นรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายหาเสียง เคลื่อนออกจากพรรคภูมิใจไทย มาถึงหน้าอาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดง ก่อนให้สัมภาษณ์ว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคภูมิใจไทยพร้อมมาก

นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ เขต 5 ห้วยขวาง วังทองหลาง พรรคภูมิใจไทย ซึ่งย้ายมาจากพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์หลังจับได้หมายเลข 8 โดยกล่าวถึงกระแสโจมตีพรรคว่า เชื่อว่าประชาชนไม่ได้เชื่อทันที แต่จะพิจารณาสิ่งที่ได้รับรู้ว่าจริงหรือไม่

“ใช่ว่าประชาชนพูดแล้วจะเชื่อ หรือพูดแล้วจะฟัง เขาฟังและนำกลับไปคิดว่าจริงหรือไม่จริง”

เมื่อถามว่า การย้ายพรรคมีผลกับฐานเสียงในพื้นที่มากน้อยแค่ไหน?

นายประเดิมชัยกล่าวว่า “แน่นอนว่า ในช่วงแรกๆ อาจจะมีผล แต่จากการที่ผมได้ลงพื้นที่และทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน ถึงจุดที่นำไปสู่การเปลี่ยนพรรคของผม เพราะผมต้องการจะมาทำประโยชน์อะไรให้กับคนกรุงเทพมหานคร ในฐานะที่เป็นสมาชิกสภากรุงเทพมหานครมา 5 สมัย 20 ปี ซึ่งก็เก็บเกี่ยวเอาประสบการณ์ความเดือดร้อน ความต้องการของคนกรุงเทพมหานคร รวมทั้งในพื้นที่ที่ผมลงสมัครรับเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นเขตห้วยขวาง หรือเขตวังทองหลาง ยังมีปัญหาที่จะต้องได้รับการแก้ไขโดยเฉพาะในเรื่องของสถานพยาบาล ที่พี่น้องประชาชนเรียกร้องค่อนข้างมาก” นายประเดิมชัย กล่าว

นายประเดิมชัย กล่าวต่อว่า “ตอนนี้คนห้วยขวาง คนวังทองหลาง คนบางกะปิ คนจตุจักร คนลาดพร้าว ไม่มีโรงพยาบาล 

5 เขตตรงนี้ไม่มีโรงพยาบาลใกล้เคียง จะต้องเดินทางไปรักษาตัวไกล ตรงนี้ผมก็นำมาเป็นนโยบายในการที่จะผลักดัน เพื่อขับเคลื่อนให้มีสถานพยาบาลรองรับดูแลคน 5 เขตการปกครองนี้” นายประเดิมชัย กล่าว

เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยค่อนข้างคาดหวังกับเขตของคุณประเดิมชัยอย่างมาก รู้สึกกดดันหรือไม่? นายประเดิมชัยเผยว่า ไม่รู้สึกกดดันแต่อย่างใด

“ไม่มีเลย เพราะผมคิดว่าผมลงสมัครมาตั้งแต่ปี 2533 จนกระทั่งถึงปี 2557 ในฐานะที่เป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น ลง ส.ข.ปี 33 ลง ส.ก.ปี 2537-2557 ก็เปลี่ยนพรรคมาแล้วอย่างน้อย 4 พรรค

แต่การเปลี่ยนพรรคเปลี่ยนค่าย ผมคิดว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะผมยึดถือเอาความเดือดร้อน เอาประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง สิ่งใดที่ผมสามารถไปยืนอยู่และสามารถจะทำประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนได้ ผมก็เลือกที่จะไปอยู่” นายประเดิมชัยระบุ

เมื่อถามว่า คิดว่าการเลือกตั้งรอบนี้ คนกรุงเทพฯจะเลือกจากกระแสพรรค หรือบุคคล นายประเดิมชัยกล่าวว่า “ณ ขณะนี้ ผมคิดว่าทุกพรรคต่างก็นำเสนอนโยบาย ถามว่าวันนี้คนกรุงเทพฯตัดสินใจ ในการที่จะเลือกใครหรือยัง ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ยังไม่ได้ตัดสินใจ ยังรอที่จะศึกษา ทั้งคุณสมบัติของผู้สมัครรวมทั้งนโยบายของแต่ละพรรค ที่จะสามารถนำไปแก้ไขปัญหาหรือตรงกับความต้องการที่เขาอยากจะได้ ฉะนั้น วันนี้ผมยังไม่เชื่อว่าคนกรุงเทพฯตัดสินใจ

ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่เราผ่านเวทีพวกนี้มามาก เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว เราเดินหน้าอย่างเดียว ผมวางแผนไว้แล้ว 6 โมงครึ่งทุกวัน ต้องออกไปพบประชาชน จนกระทั่งถึง 1 ทุ่ม”

เมื่อถามว่า ถ้าได้รับเลือกในรอบนี้ สิ่งแรกที่จะทำคืออะไร นายประเดิมชัยเผยว่า “สิ่งแรกที่จะทำ คือไปเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร ให้ตั้งคณะกรรมการวิสามัญขึ้นมา พิจารณาในเรื่องของข้อมูลต่างๆ โดยเฉพาะประเด็นสถานพยาบาลที่จะรองรับให้บริการประชาชนคนกรุงเทพฯ รวมทั้งประชากรในพื้นที่และประชากรแขวง

1 วันตกประมาณ 10 ล้านคน ฉะนั้นสถานพยาบาล บางคนต้องยอมรับว่าไม่สามารถที่จะเข้าโรงพยาบาลเอกชนได้เพราะค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ฉะนั้น รัฐมีหน้าที่ในการที่จะต้องดูแล โดยเฉพาะในเรื่องของสุขภาพ” นายประเดิมชัยกล่าว

พร้อมกล่าวกับทีมงานด้วยว่า ได้เบอร์ 8 เบอร์ชัชชาติ


ที่มา : https://www.matichon.co.th/election66/news_3908332