‘แมคไทย’ ปลื้ม!! ยอดขายพุ่งทะลุเป้า เชื่อ!! ผลพวงจากการเปิดประเทศรับ นทท.

(28 มี.ค.66) นางสาวกิตติวรรณ อนุเวชสกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แมคไทย จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมผลประกอบการในปี 2565 ที่ผ่านมานั้นเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 4 ของปี มียอดขายสร้างรายได้ต่อเดือนสูงเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่า 10 ปีที่ผ่านมาในช่วงเดียวกันนี้ นับเป็นการสร้างปรากฏการณ์การเติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้วยผลการดำเนินงานเติบโตกว่าปีก่อน 276% หรือมีผลกำไรมูลค่ากว่า 120 ล้านบาท

ทั้งนี้ มาจากปัจจัยของสถานการณ์โควิดที่คลี่คลาย รวมไปถึงการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามายังประเทศ จึงเป็นโอกาสที่ดีของธุรกิจอาหารมีทิศทางที่เติบโตตาม โดยเฉพาะร้านสาขาในโซนท่องเที่ยวและสนามบิน บวกกับได้ปรับกลยุทธ์ทางการตลาดให้สอดคล้องเข้าถึงคนไทย และรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน ที่มีกำลังซื้อกลับมา ไม่ว่าจะเป็นจากการให้บริการหน้าร้านและดิลิเวอรี

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2566 - 2567 ที่กำลังดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทจะดำเนินการขยายสาขาใหม่ และรีโนเวทร้านสาขาเดิม ภายใต้คอนเซ็ปต์ Alphabet ที่เน้นความยั่งยืน เรียบง่าย อบอุ่น และทันสมัย เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลาย เข้าถึงแบรนด์ได้มากขึ้น พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนยุคใหม่ ด้วยงบประมาณการลงทุนมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท

ขณะเดียวกันยังต้องการเสริมจุดแข็งเรื่องความหลากหลายของเมนู และตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่นิยมบริโภคไก่ทอด ซึ่งก็ได้มีการศึกษาพัฒนารสชาติให้ถูกปากคนไทย สามารถรับประทานได้ทุกเพศ ทุกวัย ทั้งครอบครัว มองว่าพอร์ตตลาดไก่ทอดในประเทศไทยค่อนข้างใหญ่และมีการแข่งขันที่สูง บริษัทมั่นใจในศักยภาพของสินค้า ตลอดจนคุณภาพของแมคไก่ทอดว่าจะสามารถตีตลาด และเข้าไปครองใจผู้บริโภคได้ไม่ยาก นอกจากนี้ ยังพัฒนาเมนูที่โดนใจ เข้าถึงง่าย และมีความคุ้มค่าสำหรับทุกคน สร้างความรู้สึกคุ้มค่าของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้อาหารของแมคโดนัลด์สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทุกกลุ่ม ผ่านการตั้งราคาที่เหมาะสมและการจัดโปรโมชั่นที่น่าดึงดูด เช่น ชุด EVM 99 บาท ซึ่งสร้างการเติบโตด้วยมูลค่ากว่า 25 ล้านบาทต่อเดือน หรืออัตราการเติบโต 150% คิดเป็นสัดส่วนยอดขาย 8.2 % ของยอดขายในสินค้าทั้งหมด

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันมีสาขาทั้งสิ้น 228 สาขา และมีแผนเปิดสาขาใหม่ภายในปีนี้อีกประมาณ 10-15 สาขา โดยจะเน้นทำเลศักยภาพที่มีกลุ่มเป้าหมายเข้ามาใช้บริการได้มาก ๆ ทั้งในและนอกกรุงเทพฯ โดยพิจารณาปริมาณความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก พร้อมกันนี้ ยังมุ่งหวังการเติบโตในปีนี้ว่าจะสูงขึ้นอีกกว่า 20%


ที่มา: https://www.thaipost.net/economy-news/349878/