‘เตนล์’ เผยมุมมองส่วนตัวและเรื่องราวในชีวิตบนเส้นทางอาชีพศิลปิน K-POP ภายใต้สังกัด SM Ent.

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเทรนด์ทวิตเตอร์ #TENxWOODYFM มาแรงมาก ๆ นั่นเป็นเพราะหนุ่ม ‘เตนล์’ หรือ ชิตพล ลี้ชัยพรกุล สมาชิกวงบอยแบนด์จากค่ายยักษ์ใหญ่ในเกาหลีใต้ อย่าง SM Ent. ที่ได้ให้สัมภาษณ์เดี่ยวครั้งแรก ผ่านรายการ WOODY FM โดยมีพิธีกรชื่อดังอย่าง วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งออนแอร์ทางออนไลน์ไปเมื่อวานที่ 8 มี.ค. ที่ผ่านมา

โดยในรายการเตนล์ได้เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ของตนเอง ตั้งแต่การตัดสินใจเลือกเดินทางในวงการบันเทิงเกาหลีใต้ อาการบาดเจ็บ รวมถึงคติ แนวคิดของตัวเอง

>> อุปสรรคที่ยากที่สุดในชีวิต คือ ‘การผ่าตัดขา’ 
เตนล์: “ถ้าขาไม่หาย จะเต้นได้มั้ย แต่ก็โชคดีที่ขาหายเป็นปกติ ช่วงนั้นก็เป็นช่วงที่พลิกของเตนล์มากเหมือนกัน เพราะก่อนที่จะผ่าตัดขาซ้อมเต้นอย่างเดียว ไม่ค่อยได้ซ้อมร้องเพลง แต่หลังจากมีการผ่าตัดที่ขา อยู่ดี ๆ ผมต้องเรียนรู้ทุกอย่างเลยเตรียมตัวไว้ก่อน ถ้าเต้นไม่ได้งั้นเราต้องร้องให้ได้ เป็นช่วงที่เหนื่อยที่สุดแต่เป็นช่วงที่ได้อะไรมาเยอะที่สุด”

คำพูดดังกล่าวทำเอาแฟนคลับทั้งนอกด้อมในด้อมต่างปล่อยโฮ เพราะได้เห็นถึงความอดทน และความพยายามอย่างหนักกว่าจะมาเป็นเตนล์ที่ทุกคนรู้จัก

หากใครได้ติดตามเตนล์จะเห็นได้ถึงความโดดเด่นด้านการเต้น ที่ถือได้ว่าเป็นที่ยอมรับในหมู่แฟนคลับ แล้วก็ยังได้รับการยอมรับจากพี่ ๆ ในวงการและนักเต้นมืออาชีพอีกด้วย 

>> ชอบการเต้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ?
เตนล์: “ประมาณอายุ 13 ครับ ตอนเด็ก ๆ จะเป็นคนที่ไม่ชอบร้อง ไม่ชอบเต้น ไม่ชอบอยู่หน้ากล้อง ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องอยู่ในโทรทัศน์ แต่อยู่ดี ๆ ก็ดูเรื่อง Step Up ดูเสร็จอาม่าก็ถามว่าอยากลองเต้นไหมก็เลยลองไปเรียนเต้น ร้องเพลงตอนนั้นก็ยังขี้อายอยู่ แต่ไป ๆ มา ๆ ก็ชอบการเต้นการร้องมากเลย”

>> จุดเริ่มต้นที่รู้สึกว่าอยากเป็นศิลปิน
เตนล์: “ความรู้สึกมันสะสมไปเรื่อยๆ ครับ สมัยเด็กๆ ทุกคนอยากจะเป็นคนที่เท่ห์อยู่ในโรงเรียนคุณอยากที่จะโดดเด่น เพราะตอนเด็ก ๆ ชอบเข้าสังคมมาก การเต้นเหมือนเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้รู้จักคนมากขึ้นครับ”

>> ชีวิตหลังจากตัดสินใจไปเป็นเด็กฝึกที่เกาหลีใต้
เตนล์: “หลังจากตัดสินใจไปเกาหลีทุกอย่างเปลี่ยนไปเยอะ อาจจะเป็นนิสัยที่ก่อนหน้านี้เหมือนทุกอย่างสบาย ๆ อิสระ แต่หลังจากที่ไปเกาหลีไม่ใช่ว่าไม่อิสระ แต่ด้วยตารางการซ้อม ต้องตรงต่อเวลา ซึ่งทุกอย่างไม่ต้องสมบูรณ์แบบแต่ต้องมีความพยายาม”

>> ความรู้สึกช่วงเวลาในการเป็นเด็กฝึกภายใต้ค่ายใหญ่ SM Ent.
เตนล์: “จะไม่พูดว่าเหนื่อย เพราะเราเป็นคนเลือกที่จะมา และตอนนั้นก็อุทิศตนว่าเราจะต้องเดบิวต์ ถ้าตัดสินใจไปแล้ว เหนื่อยไม่เหนื่อยต้องพุ่งไปอย่างเดียว มองไปข้างหน้าอย่างเดียว เตนล์จะไม่มองย้อนกลับไป แต่คิดว่าเป็นข้อที่ไม่ดีเพราะบางครั้งเราตัดสินใจไปข้างหน้าแล้วก็ต้องย้อนกลับมามองบ้าง ครึ่ง ๆ”

>> มีความสำเร็จในทุก ๆ วัน ได้ตื่นมาและทำสิ่งเหล่านี้ มีความสุขกับมันไหม?
เตนล์: “เตนล์มีความสุขครับ ดีใจที่ได้ทำ เพราะเป็นสิ่งที่เตนล์อยากจะทำอยู่แล้ว แต่ผมจะเป็นคนที่สนุกมากในช่วงเตรียมงาน ตอนซ้อม ถ่ายมิวสิควิดีโอ อัดเสียง เป็นช่วงที่เตนล์สนุกที่สุดเหมือนเราได้ทำสิ่งใหม่ ๆ ได้ท้าทายตัวเองกับอะไรที่เราไม่รู้ว่าจะทำออกมาได้ดีหรือไม่ดี พยายามเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ ครับ เพราะว่าชีวิตมีอะไรใหม่ ๆ เข้ามาตลอดเวลา”

>> ตอนนี้มั่นใจไหมเวลาที่ต้องถ่าย เวลาที่ต้องร้องหรือยังมีความตื่นเต้นทุกครั้ง ?
เตนล์: “ตื่นเต้นทุกครั้งครับ เพราะเตนล์ไม่อยากคุ้นเคยกับหน้ากล้องมาก เพราะถ้าคุณคุ้นเคยกับหน้ากล้องมาก คุณจะคิดว่ามันก็เป็นเรื่องที่ปกติธรรมดา แต่ถ้าสมมุติคุณยังมีความตื่นเต้นอยู่ แปลว่าคุณอยากจะทำอะไรที่ใหม่ ๆ ให้คนดูครับ”

 

>> ใครก็ตามที่ผลักดันตัวเองอย่างเต็มที่ทุกวันมันไปถึงเส้นชัยแน่นอน
เตนล์: “เตนล์เป็นคนเชื่อว่าถ้าคุณไม่เก่งอะไร คุณซ้อมไว้เลย ซ้อมเต็มที่เลย ยังไงก็ต้องดีขึ้นครับ การกระทำมีผลมากกว่าพรสวรรค์ครับ”


>> ฝากข้อคิดดี ๆ สำหรับคนวิ่งตามความฝันว่า 
เตนล์: “ถ้าใจสู้แล้ว ชีวิตมันมีแค่ชีวิตเดียว ลองทำไปก่อน อย่าเพิ่งบอกว่าทำไม่ได้ ถ้าได้ก็คือได้ ถ้าไม่ได้ก็ลองหาทางอื่น มันมีทางเลือกเยอะมากเลย แต่ก่อนที่จะบอกว่าทำไม่ได้ ให้ลองทำก่อน ต้องพยายามเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ เพราะชีวิตมีอะไรใหม่ตลอดเวลา”


ที่มา: https://youtu.be/wixP1x2OQ7E