แฟนผีแดงเฮ! ‘ตระกูลเกลเซอร์’ ประกาศขายทีม หลังเพิ่งประกาศแยกทาง ‘พี่โด้’ - หุ้นปิดบวก 15%

‘ตระกูลเกลเซอร์’ มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน เตรียมปล่อยมือ ประกาศขายทีม 'ปีศาจแดง' แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการ โดยเวลานี้พร้อมเปิดพิจารณาข้อเสนอจากนักลงทุนทั่วโลกที่ให้ความสนใจจะเข้ามาเทคโอเวอร์ ขณะที่หุ้นพุ่ง 15% 

มหาเศรษฐีจากสหรัฐอเมริกา เข้ามาซื้อกิจการ แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ปี 2005 ก่อนจะบริหารทีมมาอย่างยาวนาน 17 ปีจนถึงปัจจุบัน และได้รับเสียงวิจารณ์อยู่บ่อยครั้งจากเหล่า 'เรด อาร์มี' จากการบริหารงานด้านฟุตบอลที่ดูไม่ดีเสียเท่าไหร่

อย่างไรก็ตามล่าสุด 'ปีศาจแดง' แถลงผ่านเว็บไซต์สโมสรถึงประเด็นที่ว่าพวกเขาพร้อมมองหากลุ่มนักลงทุนรายอื่น ๆ ที่จะเข้ามาเทคโอเวอร์ และดูแลทีมต่อไป

“แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นหนึ่งในสโมสรกีฬาที่ประสบความสำเร็จ และมีประวัติศาสตร์เก่าแก่มากที่สุดทีมหนึ่งของโลก พวกเราขอประกาศว่า ณ วันนี้บอร์ดบริหารกำลังเริ่มต้นขั้นตอนสำหรับพิจารณาทางเลือกด้านยุทธศาสตร์ของสโมสรกันใหม่”

“ขั้นตอนดังกล่าวถูกวางแผนขึ้นเพื่อยกระดับการเติบโตของสโมสรในอนาคต โดยมีเป้าหมายที่แท้จริงคือการทำให้สโมสรอยู่ในตำแหน่งที่มีโอกาสได้รับประโยชน์มากที่สุด ทั้งในสนาม และในด้านธุรกิจ”

“บอร์ดบริหารของพวกเราจะพิจารณาทางเลือกยุทธศาสตร์ในทุกด้าน รวมไปถึงการหาการลงทุนใหม่เข้ามาในสโมสร การขายสโมสร หรือการดำเนินการทางธุรกิจอย่างอื่นซึ่งเกี่ยวข้องกับสโมสร รวมไปถึงการประเมินสถานการณ์เพื่อเริ่มเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีม ทั้งเรื่องสนามแข่ง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และขยายโครงการด้านธุรกิจในระดับโลก”

“การดำเนินการทุกอย่างเราจะเน้นไปที่การสร้างความสำเร็จระยะยาวให้ทั้งทีมชาย ทีมหญิง และทีมเยาวชนของสโมสร สร้างประโยชน์ให้แฟนบอล และผู้ถือหุ้นรายอื่น ทั้งนี้เรายังไม่สามารถยืนยันได้ว่าการพิจารณาที่กำลังดำเนินการอยู่นี้จะส่งผลให้เกิดธุรกรรมใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสโมสรหรือไม่”

“แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะไม่มีการแถลงเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดำเนินการนี้ จนกว่าบอร์ดบริหารจะอนุมัติธุรกรรมใดๆก็ตามหรือจนกว่าจะมีการกระทำอื่นที่จำเป็นต้องมีประกาศอย่างเป็นทางการ” ปีศาจแดง แถลงปิดท้าย

ทั้งนี้คาดกันว่ามูลค่าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หากมีการทำธุรกรรมซื้อขายกันจริงๆ อาจไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 1.7 แสนล้านบาท และก่อนหน้านี้ก็มีนักลุงทุนทั้งมหาเศรษฐีในอังกฤษ, กลุ่มตะวันออกกลาง และสหรัฐอเมริกา เคยให้ความสนใจ

หลังมีการประกาศดังกล่าวออกมา ราคาหุ้นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 19% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กในวันอังคาร (22 พ.ย.) ก่อนจะปิดตลาดเพิ่มขึ้น 15% แตะที่ 14.94 ดอลลาร์ ส่งผลให้มูลค่าตลาดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอยู่ที่ 2.46 พันล้านดอลลาร์ โดยสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยมีมูลค่าตลาดสูงสุด 4.3 พันล้านดอลลาร์ในปี 2561

ทั้งนี้ เมื่อเดือนส.ค. สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวระบุว่า ตระกูลเกลเซอร์กำลังพิจารณาขายหุ้นบางส่วนในสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยมีการคาดการณ์มูลค่าของทีมแมนยูฯ ที่ระดับ 5 พันล้านปอนด์ในเวลานั้น

รายงานระบุว่า ทางตระกูลเกลเซอร์กำลังทำงานร่วมกับที่ปรึกษาทางการเงินเรื่องกระบวนการต่าง ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การขายหุ้นบางส่วนหรือการลงทุนต่าง ๆ ในด้านการพัฒนาสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ดหรือปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานใหม่

“อัฟราม เกลเซอร์” และ“โจเอล เกลเซอร์” ประธานบริหารร่วมและผู้อำนวยการของสโมสรออกแถลงการณ์ว่า “ขณะที่เรากำลังพยายามสานต่อประวัติศาสตร์แห่งความสำเร็จของสโมสรอย่างต่อเนื่อง บอร์ดบริหารก็ได้อนุมัติให้ทำการประเมินทางเลือกเชิงกลยุทธ์อย่างละเอียด เราจะประเมินตัวเลือกทั้งหมดเพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับแฟนบอลและสโมสร เพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบโตแก่สโมสรให้มากที่สุดทั้งในปัจจุบันและอนาคต”

การประกาศดังกล่าวมีขึ้นไม่นานหลังสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพิ่งประกาศยกเลิกสัญญากับคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์ของทีมด้วยความสมัครใจทั้งสองฝ่าย หลังจากที่โรนัลโด้ออกมาให้สัมภาษณ์เรื่องการขาดการพัฒนาด้านต่าง ๆ ของสโมสร รวมถึงรู้สึก “ถูกสโมสรทรยศ”


ที่มา : https://www.pptvhd36.com/sport/news/185186

https://www.bangkokbiznews.com/finance/1039539