'ไบร์ท วชิรวิชญ์' ยันเป็นเหยื่อ Forex 3D สูญเงิน 7 แสนบาท โอด รู้ตัวช้า เพราะเชื่อใจ - ไว้ใจ 'อภิรักษ์'

'ไบร์ท วชิรวิชญ์' รับความโลภบังตา เอาเงินทั้งชีวิตเข้าลงทุน Forex 3D สูญ 775,000 บาท พร้อมเล่าเส้นทางสนิทสนม 'อภิรักษ์' โอดตนน่าจะเป็นคนที่รู้ช้าที่สุดเพราะเชื่อสนิทใจ ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งมองไม่เห็นความจริง หากไม่มีชื่อเสียงเหมือนวันนี้ ตอนนี้ตนคงแย่มากๆ

หลังจากที่พิธีกรข่าว 'เต๋า ทีวีพูล' ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า… “เรียกสอบอีกคู่!!! เตรียมเรียกคู่จิ้นวาย? สอบคดีแชร์ Forex - 3D เหตุมีภาพสนิทผู้บริหาร” ทางเพจ รวบรวมผู้โดนโกงจาก Forex 3D ก็เอามาขยี้ต่อ โดยเผยว่าคู่ซีรีส์วายดังกล่าวคือ 'ไบร์ท วชิรวิชญ์ ชีวอารี' พร้อมเผยภาพคสามสนิทสนมของ ไบร์ท กับ 'อภิรักษ์ โกฎธิ' CEO Forex 3D ตั้งแต่ปี 2014

วันนี้ (30 ก.ย. 65) ไบร์ท วชิรวิชญ์ ได้ออกมาเปิดใจครั้งแรกในรายการ วันบันเทิง ถึงการมีภาพความสนิทสนมกับอภิรักษ์ อีกทั้งยังเผยว่าตนก็ตกเป็นเหยื่อเพราะร่วมลงทุนกับ Forex 3D จนเกือบหมดตัว

“ตอนนั้นผมอายุประมาณ 15-16 ครับ ช่วงนั้นผมทำรายการสตรอว์เบอร์รี่ครับเค้ก ซึ่งผมก็จะมีรุ่นพี่คนนึงซึ่งผมเป็นพิธีกรด้วยกันชื่อว่า นิค นิโค เป็นคนพาผมไปรู้จักกับพี่รักษ์ ซึ่งในช่วงนั้นเวลาผมทำงานเลิกดึกผมจะกลับบ้านที่นครปฐม แต่บางทีรถตู้หมด 3 ทุ่ม บางทีผมเลิกงานกลับบ้านไม่ทันก็ไปอาศัยนอนบ้านเขา ซึ่งเขาอาศัยอยู่บ้านเดียวกันก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นทำให้ผมรู้จักกับพี่รักษ์ครับ

ในคลิปตอนนั้นผม ม.4 จริงๆ ในคลิปที่เห็นนั้นเป็นวันแรกที่ได้เจอกันเลย ผมไปนอนบ้านพี่นิคครั้งแรกก็ร้องเพลงกัน อัดคลิป มันเท่านั้นเองครับวันนั้น”

>> เล่าจุดเริ่มต้นที่เข้าไปร่วมลงทุน Forex3 D
“ในส่วนของจุดเริ่มต้น ก็ต้องยอมรับว่ามันก็เริ่มจากตัวผมนี่แหละครับ ด้วยความที่ ณ ตอนนั้นทุกคนที่อยู่รอบตัวผมทุกคนลงทุนตรงนี้หมด ทุกคนเล่นตรงนี้หมด และผมก็เห็นมาสักพัก ตอนแรกผมก็ไม่ได้มั่นใจแต่เราก็เห็นมาสักพักว่าทุกคนได้จริงๆ และได้กันเป็นระยะเวลานาน

แต่เราก็เห็นมาสักพักว่าทุกคนได้กันจริงๆ และได้กันไปแล้วเป็นเวลานานเป็นปีๆ เราก็รู้สึกว่ามันน่าจะโอเคนะ มันน่าเชื่อถือได้ ณ วันนั้นผมยังไม่ได้มีเงิน เงินก่อนแรกที่ผมเอามาลงผมขอแม่มาลงด้วยซ้ำ จำนวน 50,000 บาท พอเราเริ่มลงไปปั๊บมันก็ได้จริงๆ ในวันแรกมันได้จริงๆ มันได้เรื่อยๆ เราก็รู้สึกว่ามันโอเคนะ ผมก็พยายามที่จะเก็บเงิน งานทุกชิ้นที่ผมทำ รายได้ไม่ว่าจะทางไหนก็ตาม ส่วนใหญ่ผมก็จะยัดกลับคืนเข้าไป ผมรู้สึกว่ามันคือการลงทุน เป็นการออมเพื่ออนาคต”

>ณ วันที่ตัดสินใจลงทุนไปยังไม่มีชื่อเสียงแบบนี้ เผยเอาเงินทั้งชีวิตของครอบครัวมาลงทุน จำนวน 775,000 บาท
“ไม่มีเลยครับวันนั้น ตอนนั้นผมก็เอาเงินจากการเล่นโฆษณา แคสงาน เงินบางส่วนก็เป็นเงินเก็บของแม่ คือเรารู้สึกว่าน่าจะเป็นการลงทุนที่โอเคที่สุด เงินจากส่วนอื่นๆ ที่ผมมี ผมก็เอามาใส่ตรงนี้หมดเลย ตอนนั้นผมเรียกว่ามันเป็นเงินทั้งชีวิตของครอบครัวผมเลยแล้วกัน นั่นคือเงินก้อนใหญ่ก้อนเดียวที่บ้านผมมี แล้วเราก็เสียไปกับตรงนั้นทั้งหมด จำนวน 775,000 บาท เยอะมากๆ ณ วันนั้นมันคือเงินทั้งครอบครัว

ในวันนั้นมันเป็นเรื่องที่เราเครียดกันมากๆ มันถึงขนาดว่า แล้วเงินสำรองครอบครัว เงินที่เราจะต้องเอาไว้ใช้ในอนาคตมันหายไปหมดแล้ว แล้วเราต้องมานั่งนับหนึ่งใหม่ แล้วจะต้องยังไง แล้วช่วงนั้นเป็นช่วงโควิดด้วย ถ้าอะไรๆมันไม่ได้เป็นแบบทุกวันนี้ ผมน่าจะแย่มากๆ คงจะไม่รู้จะใช้ชีวิตยังไงเลย”

>> โอดตนน่าจะเป็นคนที่รู้ช้าที่สุดเพราะเชื่อสนิทใจ ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งมองไม่เห็นความจริง รับความโลภบังตา
“ในช่วงแรกๆ เรายังติดต่อเขาได้ ตอนที่คนยังไม่ได้มั่นใจว่ามันคือยังไงกันแน่ ผมยังติดต่อเขาได้ ผมติดต่อถามไถ่เขาตลอด เขาก็จะพูดให้เรามั่นใจตลอดว่ามันอยู่ในกระบวนการนะ มันมีปัญหานะ เราก็เชื่อสนิทใจ เขาคือพี่ที่เรารู้จัก เรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เรายิ่งอยู่ใกล้เรายิ่งไม่เห็นความจริง เรายิ่งเชื่อ ณ วันนั้นผมน่าจะเป็นคนที่มั่นใจมากๆ ในตัวเขาเลย ผมว่าผมน่าจะเป็นคนที่รู้ช้ามากๆ เหมือนเรามีโอกาสได้อยู่ใกล้เขา คนอื่นมองเข้ามาอาจจะเห็นภาพรวม เห็นความจริงว่ามันคือการหลอกลวง มันคือการฉ้อโกง แต่สำหรับผมเรารู้สึกว่าเขาแค่มีปัญหา เดี๋ยวเขาก็จัดการได้

กว่าผมจะมารู้จริงๆ ผมรู้สึกว่าคนอื่นน่าจะรู้กันไปหมดแล้ว เราเห็นนะ แต่เราไม่เชื่อ มันคือความโลภครับ เป็นความโลภที่มันบังตา ถ้าเรามองให้ดีๆ จริงๆ เราจะเห็นได้ว่ามันไม่มีการลงทุนอะไรที่มันจะให้ผลตอบแทนอะไรขนาดนั้นได้ ถ้าจะลงทุนอะไรก็อยากจะให้ลงทุนในสิ่งที่มันตรวจสอบได้ ถูกต้องตามกฎหมาย มีกฎหมายรับรองจริงๆ อย่าหลงเชื่อเลยครับ”

แนะหากจะลงทุนอะไรให้ตรวจสอบดีๆ ตนก็ตกเป็นเหยื่อ หากรู้ว่ามันเป็นการฉ้อโกงคงไม่ปล่อยให้คนที่ตนรักไปร่วมลงทุนด้วย

“ถ้าจะลงทุนอะไรก็อยากจะให้ลงทุนในสิ่งที่มันตรวจสอบได้ ถูกต้องตามกฎหมาย มีกฎหมายรับรองจริงๆ อย่าหลงเชื่อเลยครับไม่ว่าจะอะไรก็ตาม เป็นบทเรียนของตัวผมด้วยไม่ว่าจะดูน่าเชื่อถือขนาดไหน ไม่ว่าเขาจะเป็นใครเป็นคนใกล้ตัว แต่ถ้ามันไม่ถูกกฎหมาย ไม่ถูกตรวจสอบได้ ผมไม่อยากให้ใครต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก

ผมก็คือเหยื่อที่มาลงกับเขาตรงนี้ ถามว่าชักชวนใครไหม มันไม่ได้มีการชักชวนเกิดขึ้นเลยครับ คือคนที่เล่นตามผมคือคนใกล้ตัวคนที่ผมรักทั้งนั้น คือ แม่ เพื่อนสนิท มีแต่คนใกล้ตัวจริงๆ แล้วถ้าเกิดผมรู้ว่ามันคือการฉ้อโกง การหลอกลวง ผมคงไม่มีทางปล่อยให้แม่ให้คนที่ผมรักมาเสียหายตรงนี้ด้วย แล้วผมเองถ้ารู้ว่ามันเป็นการฉ้อโกงคงเอาเงินออกมาหมดแล้ว คงไม่ทิ้งไว้จนเงินทั้งครอบครัวผมมันเสียหายแบบนี้ มันเป็นไปไม่ได้เลยถ้าผมรู้กลไกรู้กระบวนการแล้วผมจะตัดสินใจผมจะมีแอ็กชันกับเรื่องนี้แบบนี้ครับ”

>> ไม่อยากโทษใคร เพราะไม่มีใครไปชักชวน ตนพุ่งตัวไปเล่นเอง พร้อมยินดีให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ DSI
“มันเป็นการตัดสินใจของเราเอง มันคือบทเรียนครั้งสำคัญเปิดเป็นความพลาดของเรา ผมไม่ได้อยากจะไปกล่าวโทษใครเลยและมันไม่ได้มีใครชักชวน คือเราเห็นเขาทำแล้วมันได้เราก็พุ่งเข้าไปเองจริงๆ แต่ ณ วันนี้ผมพูดเลยถ้าเกิดว่าทางเจ้าหน้าที่ทางดีเอสไอหรืออะไรก็ตามอยากจะได้ข้อมูลอยากจะให้ผมเป็นพยานหรืออะไรก็ตาม ผมพร้อมให้ข้อมูลอย่างเต็มที่เลยครับวันนี้ก็คือติดต่อได้เลยครับผมไม่สบายใจเลยครับ

แบบว่าความเครียดมันไม่ได้ตกอยู่แค่ที่ผม คนรอบตัว แม่ หรืออะไรก็ตาม ทุกๆ คนเครียดมากคือเรารู้สึกว่า ณ วันนั้นเราเครียดกับผลกระทบที่มันเกิดขึ้น ณ วันนี้มีข่าวขึ้นมาอีกมันก็หนักมากๆ จริงๆ ครับ

ขอบคุณครับ ขอบคุณทุกกำลังใจ ขอบคุณคนที่เชื่อใจ ขอบคุณแฟนๆ ที่เชื่อมั่นในตัวผมครับ ผมอยากจะขอให้เหตุการณ์ครั้งนี้ให้บทเรียนที่มันเกิดขึ้นกับตัวผมครั้งนี้อยากจะให้เป็นบทเรียนสำหรับทุกๆ คนเลย ไม่อยากให้ใครต้องมาถูกหลอก ไม่อยากให้ใครต้องมาเสียหายกับเรื่องแบบนี้อีกครับ ก็อยากจะขอให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับทุกคนครับ”

ขณะที่บอย  วันบันเทิง เผยว่าเหตุที่ไบร์ทไม่แจ้งความทั้งที่เป็นผู้เสียหาย เพราะอายที่โง่จนถูกหลอกลวง 


ที่มา : https://mgronline.com/entertainment/detail/9650000093942