'โซนี่ พิคเจอร์ส' ทุ่มพันล้าน ผุดธีมปาร์คแรกในโลกที่พัทยา มั่น!! ปี 2566 โกยนักท่องเที่ยวทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน

โซนี่ พิคเจอร์ส จัดเต็ม กางแผน 10ปี อัดเม็ดเงินไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ลุยโปรเจกต์มูฟวี่ ธีม ปาร์ค ในไทย แห่งแรกและแห่งเดียวของโลก ปักหมุดที่พัทยา บนพื้นที่รวมกว่า 200 ไร่ เผยโฉมเฟสแรก 'โคลัมเบีย พิคเจอร์ส อควาเวิร์ส' เปิดให้บริการ 12 ต.ค. นี้ ส่วนเฟส 2 พร้อมเดินหน้าต่อทันที ในรูปแบบอินดอร์ เวอร์ชวล มั่นใจดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้ หรือภายในปี 2566 มีผู้เข้าในบริการไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน

นายเลียแคท แดนจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Columbia Pictures Aquaverse เปิดเผยว่า บริษัทใช้เวลากว่า 7 ปีในการพัฒนาโครงการ 'โคลัมเบีย พิคเจอร์ส อควาเวิร์ส' มูฟวี่ ธีม พาร์ค ไทยแลนด์ ภายใต้การสนับสนุนของ EEC ซึ่งถือเป็นเป็นโปรเจกต์สวนสนุกแห่งแรกของโซนี่ พิคเจอร์ส และโครงการนี้ถือเป็นที่แรกของไทยและของโลกอีกด้วย โดยโครงการ 'โคลัมเบีย พิคเจอร์ส อควาเวิร์ส' นี้ เป็นสวนสนุกและสวนน้ำในธีมภาพยนตร์ระดับโลกที่ได้รวมคาแร็คเตอร์สุดโปรดและฉากสุดประทับใจจากภาพยนตร์ฮอลลีวูดยอดนิยมตลอดกาลที่ครองใจแฟนๆ ทุกยุคทุกวัย อาทิ โกสต์บัสเตอร์ส บริษัทกำจัดผี (Ghostbusters) จูแมนจี้ เกมดูดโลกมหัศจรรย์ (Jumanji) แบดบอยส์ คู่หูขวางนรก (Bad Boys) โฮเทล ทรานซิลเวเนีย โรงแรมผีหนี ไปพักร้อน (Hotel Transylvania) อิโมจิ แอพติสต์ตะลุยโลก (The Emoji Movie) และอีกมากมาย  

อย่างไรก็ตาม การลงทุนในไทยของทางโซนี่ พิคเจอร์สในครั้งนี้ อยู่ในแผนการลงทุนด้านความบันเทิงระยะยาวที่วางไว้ 10 ปี กับจำนวนที่ดินที่มีกว่า 200 ไร่ ภายใต้งบการลงทุนที่วางไว้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท โดยเฟสแรก คือ 'โคลัมเบีย พิคเจอร์ส อควาเวิร์ส' บนพื้นที่ 35 ไร่ จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ 12 ต.ค. 2565 นี้ และเฟส 2 จะเป็นเรื่องของความบันเทิงในรูปแบบอินดอร์ กับการนำเทคโนโลยีด้าน VR และ AR มาใช้ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้หลังจากที่นายเจฟฟรีย์ ก็อดซิค รองประธานบริหาร สายงานพันธมิตรทางการตลาด การบริหารแบรนด์ และหัวหน้ากลุ่มธุรกิจบันเทิง โซนี่ พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเมน จะเข้ามาดูแผนงานที่ประเทศไทย ในช่วงแกรนด์โอเพ่นนิ่ง 'โคลัมเบีย พิคเจอร์ส อควาเวิร์ส' ในวันที่ 11 ต.ค. ที่จะถึงนี้

“การที่โซนี่ พิคเจอร์ส เลือกประเทศไทย เป็นที่แรกของการลงทุนด้านสวนสนุกในครั้งนี้ ส่วนสำคัญมาจากศักยภาพของประเทศไทย และของพัทยา ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่รู้จักกันทั่วโลก อีกทั้งยังมีการพัฒนาอินฟาสตรัคเจอร์ด้านต่างๆ ที่จะอำนวยความสะดวก ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเที่ยวได้สะดวกยิ่งขึ้น ภายใต้การดูแลและการแนะนำ รวมถึงทำงานร่วมกันกับทาง เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยมองว่าพัทยา และประเทศไทย มีศักยภาพเทียบเท่ากับ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และฮ่องกง ที่มีสวนสนุกระดับโลกมาเปิดให้บริการ ไม่ว่าจะเป็น ดิสนีย์แลนด์ หรือ สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ”

ที่สำคัญการเปิดตัว โคลัมเบีย พิคเจอร์ส อควาเวิร์ส สะท้อนถึงก้าวแรกของความร่วมมือในโปรเจคยักษ์ใหญ่ที่จะพลิกโฉมธุรกิจท่องเที่ยวแบบเสมือนจริง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาเมืองอัจฉริยะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก

นอกจากเครื่องเล่นและโชว์ต่างๆ ที่เตรียมไว้ จะมีการร่วมมือกับที่พักและโรงแรมชั้นนำ พาร์ทเนอร์ด้านเทคโนโลยี ธุรกิจรีเทล และ F&B ที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันของนักท่องเที่ยวในธีมพาร์คและสวนน้ำแห่งนี้ ที่สำคัญเชื่อว่าจะสามารถรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนกว่า 20 ล้านคน ที่มาเที่ยวในพัทยาและชลบุรี แบ่งเป็น โลคอล 10 ล้านคน และต่างประเทศอีก 10 ล้านคน หรือทำให้นักท่องเที่ยวยืดเวลาในการมาเที่ยวจากเดิมได้อีก 1-2 วัน โดยตั้งเป้าว่าภายในปี 2566 โคลัมเบีย พิคเจอร์ส อควาเวิร์ส จะมีผู้เข้ามาใช้บริการไม่ต่ำกว่า 1-1.2 ล้านคน

นายเจฟฟรีย์ ก็อดซิค รองประธานบริหาร สายงานพันธมิตรทางการตลาด การบริหารแบรนด์ และหัวหน้ากลุ่มธุรกิจบันเทิง โซนี่ พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ กล่าวว่า สำหรับประเทศไทย โคลัมเบีย พิคเจอร์ส อควาเวิร์ส นับเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ระดับโลกของโซนี่ พิคเจอร์ส ในการขยายธุรกิจบันเทิงในประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจ โดยการโปรโมตร่วมกับภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ที่เป็นที่รู้จักระดับโลก เรากำลังสร้างโอกาสสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ได้สัมผัสประสบการณ์เสมือนจริง ผ่านตัวละครและการเล่าเรื่องจากเครื่องเล่น นิทรรศการและเครื่องเล่นในธีมพาร์ค

ดร. คณิศ แสงสุพรรณ ที่ปรึกษาพิเศษ ด้านการขับเคลื่อนการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก กล่าวเสริมว่า เรารู้สึกภูมิใจที่ได้ต้อนรับและขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะสนับสนุนโซนี่ พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ และบริษัท อเมซอน ฟอลส์ จำกัด อย่างเต็มความสามารถ เพื่อโปรโมตโคลัมเบีย พิคเจอร์ส อควาเวิร์ส ให้เป็นมาตรฐานใหม่ของการท่องเที่ยวรูปแบบเสมือนจริงในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกของประเทศไทย ซึ่งจะมีบทบาทในการขยายธุรกิจท่องเที่ยวใน EEC

อีกทั้งธีมพาร์คแห่งนี้จะเป็นองค์ประกอบสำคัญในแผนพัฒนาเมืองอัจฉริยะของ EEC และ EEC พร้อมช่วยเหลือในทุกด้าน อาทิ การให้บริการเทคโนโลยี 5G และระบบโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ เทคโนโลยีดิจิทัล ระบบคมนาคมขนส่ง และความร่วมมือด้านพลังงานสะอาด และการมอบสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุน เพื่อให้โครงการประสบความสำเร็จและสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระยะยาวให้เกิดขึ้นใน EEC ต่อไป


ที่มา : https://mgronline.com/business/detail/9650000089204