'แบรนด์เสื้อผ้า-ยาสีฟัน' ยอดขายพุ่งกระฉูด อิทธิพล 'ลิซ่า' ถือ-จับ-ใส่ อะไรก็เป็นเงินเป็นทอง

ต้องยอมรับตรงๆ เลยว่า ลิซ่า BLACKPINK หรือ ลลิษา มโนบาล เป็นหนึ่งในบุคคลที่มีอิทธิพลต่อการตลาด แฟชั่น ความบันเทิง หรือแม้แต่เรื่องอาหารอย่างมาก เพราะตั้งแต่เริ่มเดบิวต์มาจนถึงปัจจุบันนี้ ไม่ว่าลิซ่าจะหยิบจะจับอะไรก็ดูเหมือนว่าจะกลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงตลอด และนำมาซึ่งการขายดีเทน้ำเท่ท่า หากใครนึกไม่ออก ให้นึกถึงกระแส 'ลูกชิ้นยืนกิน' ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วก็ได้

ความฮิตและฮอตของลิซ่า ส่งผลให้แบรนด์สินค้าหลายแบรนด์ต่างหมายตาดึงตัวไปเป็นพรีเซ็นเตอร์หรือแบรนด์แอมบาสเดอร์กันทั้งนั้น ซึ่งรวมถึงแบรนด์ยาสีฟันชื่อดังอย่าง 'เดนทิสเต้' ด้วย

โดยเมื่อไม่นานมานี้ เภสัชกร ดร.แสงสุข พิทยานุกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามเฮลท์กรุ๊ป จำกัด ผู้นำเข้าและผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากระดับพรีเมียม เดนทิสเต้ (DENTISTE’) ได้เปิดเผยว่า นับตั้งแต่การเกิดขึ้นของโควิด-19 ตลาดยาสีฟันในประเทศไทยมีการแข่งขันกันสูงมาก ในแง่ของแบรนด์ที่อยู่ในสนาม โดยจากเดิมที่เคยมีไม่ถึง 10 แบรนด์ แต่ตอนนี้น่าจะมีแตะ 50 แบรนด์ที่ลงมาชิงส่วนแบ่งตลาดกลุ่มนี้ ขณะที่มูลค่าตลาดพบว่าอยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท และการเติบโตในปี 2565 จะอยู่ที่ประมาณ 5-6%

สำหรับ 'เดนทิสเต้' แล้ว ถือเป็นแบรนด์ที่วางขายยาสีฟันในประเทศไทยมานานกว่า 16 ปี และหากนับภาพใหญ่อย่างตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก (Oral Care) ก็รวมแล้ว 18 ปี โดยปัจจุบันแบรนด์มีส่วนแบ่งตลาดยาสีฟันในไทย ภาพรวมอยู่ที่ 7% เนื่องจากเป็นแบรนด์ยาสีฟันที่จัดอยู่ในกลุ่มไฮเอนด์ ซึ่งหากนับเฉพาะในกลุ่มนี้จะมีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 85%

แต่ปรากฏการณ์หลังจากที่เดนทิสเต้ได้ 'ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล' หรือ 'ลิซ่า BLACKPINK' มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ซึ่งก็ได้มีการต่อสัญญาอยู่กันต่อไปเรียบร้อยนั้น พบว่าตั้งแต่เปิดตัวก็มีห้างสรรพสินค้าติดต่อให้นำผลิตภัณฑ์มาวางขายกันหนาแน่น ตลอดจนมีคลินิกทันตกรรมติดต่อเข้ามากันกว่า 6,000 สาขา อย่างง่ายดาย โดยที่แบรนด์ไม่ต้องเข้าไปทำการเจรจากันก่อนด้วยซ้ำ และทำให้ยอดขายผลิตภัณฑ์ของ เดนทิสเต้ เติบโตราว 15% แม้อยู่ในช่วงสถานการณ์การระบาดอย่างหนักของโควิด-19 ก็ตาม

นอกจากนี้ เภสัชกร ดร.แสงสุข พิทยานุกุล ยังได้เล่าความน่าสนใจของยอดขายเดนทิสเต้ในต่างประเทศด้วยว่า แบรนด์มียอดขายในเกาหลีใต้มากกว่าที่เมืองไทยถึง 2 เท่า และวางขายผลิตภัณฑ์ในแดนกิมจิแห่งนี้มาแล้วถึง 13 ปี มีส่วนแบ่งตลาดยาสีฟันในประเทศนี้มากถึง 13%

ไม่น่าแปลกใจเลยที่ เดนทิสเต้ จะกลายมาเป็นแบรนด์ยาสีฟันที่ ลิซ่า BLACKPINK เลือกใช้มาตลอดอยู่แล้ว และส่งผลให้เป็น 1 ใน 10 แบรนด์ที่เธอเลือกรับเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ด้วย

นอกเหนือจากเรื่องของการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับเดนทิสเต้แล้วทำให้ยอดขายพุ่งกระฉูดแล้วนั้น ในเรื่องของแฟชั่นก็ไม่น้อยหน้า เมื่อล่าสุด 4 สาววง BLACKPINK ได้ปล่อยผลงานเพลงไตเติลที่ชื่อว่า 'Shutdown' จากอัลบั้มล่าสุด 'Born Pink' ออกมาก็เรียกเสียงฮือฮาได้อย่างมาก 

โดยจุดสนใจในครั้งนี้ คือแฟชั่นการแต่งกายแนวสตรีตของ 'ลิซ่า' และ 'เจนนี่' ที่ทั้ง 2 สาวได้สวมเสื้อผ้าแบรนด์ไทยที่ดังระดับโลก ชื่อแบรนด์ว่า 'Pony Stone' ซึ่งมีราคาจับต้องได้ในราคาแค่หลักพัน ยิ่งทำให้ได้รับความสนใจมากขึ้น

โดย ลิซ่า สวมกางเกงกระโปรงยีนส์ขาสั้น CLYDES ราคา 3,280 บาท, เสื้อครอปตัวจิ๋วซีทรู ราคา 1,880 บาท 
ขณะที่ เจนนี่ ใส่เสื้อกล้ามสีขาว GIN ราคา 2,880 บาท ของแบรนด์เช่นกัน

อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แบรนด์ Pony Stone สัญชาติไทยเข้าไปอยู่บนร่างกายของสาวๆ BLACKPINK เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยถูกนำไปสวมใส่ในหลายๆ งานทั้ง เจนนี่ และ ลิซ่า ที่ใส่ขึ้นสเตจที่ญี่ปุ่น, เจนนี่ ใส่ในเอ็มวี Lovesick Girls และ ลิซ่า ใส่ในเอ็มวี LALISA ซึ่งทีมงานของค่าย YG Entertainment เป็นผู้ติดต่อเข้ามาขอร่วมงานด้วยตนเอง

นอกจากสาวๆ BLACKPINK แล้ว แบรนด์ Pony Stone ก็เป็นที่รู้จักในระดับโลกมาก่อนที่จะได้ร่วมงานกับเกิร์ลกรุ๊ปดัง เพราะก่อนหน้านี้บรรดาศิลปิน-นางแบบชื่อดังระดับโลกต่างติดต่อเข้าไปทางแบรนด์เพื่อขอร่วมงานอย่าง จีจี้ ฮาดิด, ไคลี เจนเนอร์, คริสเตน สจ๊วรต์ หรือการได้สร้างสรรค์ผลงานร่วมกันกับ โคดะ คูมิ ด้วย


ที่มา : https://mgronline.com/entertainment/detail/9650000089383
https://marketeeronline.co/archives/280053