พท. ซัด 8 ปี หลังรัฐประหารทำไทยเสื่อมถอย ชี้ ต่างชาติขาดความเชื่อมั่น เหตุผู้นำไร้วิสัยทัศน์

พิชัย นริพทะพันธุ์ ซัด 8 ปี หลังรัฐประหาร ทำภาพลักษณ์ประเทศเสื่อม เศรษฐกิจแย่ ชี้ ต่างชาติขาดความเชื่อมั่น เหตุจากคอร์รัปชั่น ซ้ำร้ายยังได้ผู้นำขาดวิสัยทัศน์ ไม่พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

(13 ก.ย. 2565) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าตลอด 8 ปีหลังการทำรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ นำโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในปัจจุบันนี้ ประเทศได้เสื่อมถอยลงทั้งการค้า การลงทุน ความเจริญทางเศรษฐกิจ แม้จะมีการเลือกตั้งทั่วไปก็ยังมีกระบวนการสืบทอดอำนาจเพื่อให้ตัวพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้อยู่ต่อเพื่อรักษาอำนาจ จนประเทศไทยวันนี้กลายเป็นคนป่วยของอาเซียน และจะยิ่งป่วยหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านเศรษฐกิจ

พรรคเพื่อไทย กังวลถึงภาพลักษณ์ประเทศที่เสื่อมถอยหนักมาก จึงขอแสดงข้อกังวล 9 ข้อ ฝากไปยังรัฐบาลรีบแก้ไขปัญหาเพื่อให้เศรษฐกิจไทยที่กำลังสะดุดอยู่ในขณะนี้กลับฟื้นคืนโดยเร็ว โดยปัญหาทั้ง 9 ข้อนี้ได้แก่

1. ประเทศไทยยังมีโอกาสเกิดการปฏิวัติรัฐประหารได้อีก ซึ่งต่างประเทศก็เห็นปัญหานี้ ในอนาคตต้องไม่มีการปฏิวัติอีกแล้ว

2. กระบวนการยุติธรรมไทยขาด หลักนิติธรรม หรือ The Rule of Law คือ การปกครองโดยกฎหมายซึ่งเป็นธรรม ต้องยอมรับความจริงว่าระบบยุติธรรมไทยในสายตาต่างชาติดูย่ำแย่ ความน่าเชื่อถือตกต่ำ

3. เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำสุด จนกลายเป็นคนป่วยของเอเชีย ตั้งแต่ก่อนมีการระบาดของไวรัสโควิด และป่วยหนักยิ่งขึ้นเมื่อเกิดวิกฤติการณ์ไวรัสโควิด ทำให้เศรษฐกิจไทยไม่น่าสนใจลงทุนและยังเกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำสูง

4. เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้าที่สุด หลังจากที่ผ่านพ้นวิกฤติโควิด เศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เกินกว่าที่ตกลงมา แต่เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้ายังไม่ถึงที่ตกลงมา

5. ระบบราชการล้าสมัย เป็นอุปสรรคในการทำธุรกิจ ควรต้องเปลี่ยนเป็น Digital Transformation

6. การคอร์รัปชันเพิ่มขึ้นมาก ทำให้นักลงทุนต่างประเทศเอือมระอา ต้องกำจัดการคอร์รัปชันให้ได้

7. โครงสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ไม่ได้มีการพัฒนา ทำให้อันดับโครงสร้างพื้นฐานของไทยตกลง รถไฟความเร็วสูงเชื่อมจีน-ลาว แต่ไม่ถึงไทย ต้องรีบแก้ไขปรับปรุง รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลด้วย

8. โครงสร้างอุตสาหกรรมที่มีอยู่เริ่มล้าสมัย ไม่มีอุตสาหกรรมต้นน้ำที่สำคัญสำหรับอนาคต เช่น ไมโครชิพและแบตเตอรี่ไฟฟ้า ซึ่งต้องรีบเร่งให้เกิดขึ้นจริง

9. ผู้นำขาดวิสัยทัศน์ ไม่สามารถนำพาประเทศให้พัฒนาต่อไปนี้ อีกทั้งยังเป็นผู้นำสืบทอดอำนาจจากการปฏิวัติ

“9 ปัญหาในสายตาต่างประเทศที่มองเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งจะต้องเร่งแก้ไขเพื่อทำให้เกิดความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือ เพื่อประเทศไทยจะพัฒนาต่อไปได้ หากยังย่ำอยู่ที่เดิมเหมือนในปัจจุบันจะถูกประเทศเพื่อนบ้านแซงแน่ โดยเฉพาะประเทศเวียดนาม ที่การส่งออกเวียดนามแซงไทยไปไกลมากแล้ว” รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ กล่าว


ที่มา : https://www.facebook.com/photo/?fbid=658534225642230&set=a.508934057268915