'สร้างอนาคตไทย' ประกาศความพร้อม ปลุกใจว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แดนใต้ ลั่นระฆังรบ พร้อมเปิดนโยบายหลักพรรคกู้วิกฤติเศรษฐกิจชาติ

เมื่อวันที่ (16 ส.ค. 2565) ที่พรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) มีการประชุมระหว่างแกนนำพรรค กับผู้แสดงเจตจำนง เป็นผู้สมัคร ส.ส.ภาคใต้ จำนวน 16 คน เพื่อติดตามสถานการณ์ทางการเมือง พร้อมมอบนโยบายพรรคในการทำงานในพื้นที่ และรับฟังนโยบายที่สำคัญของพรรค รวมถึงการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบาย พร้อมเปิดรับฟังปัญหาของประชาชน ที่สะท้อนผ่านผู้แสดงเจตจำนงเป็นผู้สมัคร ส.ส. ของพรรค โดยมี ดร.อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค และประธานภาคใต้ ดร.สันติ กีระนันทน์ รองหัวหน้าพรรค นายวิเชียร ชวลิต รองหัวหน้าพรรค และผอ.พรรค นายนริศ เชยกลิ่น รองหัวหน้าพรรคและโฆษกพรรค นายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรคและประธานภาคกลาง และ ดร.บุญส่ง ชเลธร รองเลขาธิการพรรค เข้าร่วมประชุม 

ดร.อุตตม กล่าวว่า จากนี้ไปจะมีเวลาทำงานไม่มากนัก ดังนั้น พรรคจะต้องทำงานอย่างเข้มข้น ย้ำให้ชัดเจนว่ายุทธศาสตร์ภาคใต้จะเดินอย่างไร ทีมผู้แสดงเจตจำนงเป็นผู้สมัคร สส. มีหน้าที่อะไร ต้องการอะไร ซึ่งพรรคมีหน้าที่สนับสนุนให้ถูกจุดในทุกมิติ ขอยืนยันว่าพรรคมีความพร้อมเดินหน้าในสนามเลือกตั้งอย่างแน่นอน และพรรคเตรียมเปิดตัวนโยบายหลักของพรรคเร็ว ๆ นี้

ขณะที่นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เหลือเวลาการทำงานไม่มาก ดังนั้นพรรคจะทำงานกับทุกคนอย่างเข้มข้น จะรับฟังปัญหา และอุปสรรค รวมถึงสื่อสารเพื่อร่วมกันทำงานให้สอดรับกันระหว่างพรรค และผู้แสดงเจตจำนงเป็นผู้สมัคร ส.ส.หลายเดือนที่ผ่านมามองว่าการเมืองไทยเปลี่ยนแปลงมาก ภาพการเมืองไทยเริ่มชัดขึ้น มีทั้งพรรคที่ไปต่อได้ และไปต่อไม่ได้ หลังวันที่ 24 ส.ค.เป็นต้นไป พรรคจะเริ่มระดมทำงานอย่างเต็มที่ เนื่องจากพรรครอให้การพิจารณาวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นที่ยุติ ซึ่งจะยุติอย่างไรก็แล้วแต่ พรรคเชื่อว่านั่นคือโค้งสุดท้ายของการเมืองไทยก่อนที่จะเข้าสู่การเลือกตั้ง แต่จะเกิดหรือไม่เกิดอะไรขึ้นนั้น คาดการณ์ไม่ได้ แต่ในอารมณ์ของการเมืองคือเวลาที่เหมาะสมแล้วที่จะยกพลขึ้นบก ดังนั้น หลังวันที่ 24 ส.ค. 65 พรรคจะเปิดนโยบายหลัก ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้ทีมเศรษฐกิจพรรคใช้เป็นหลักในแก้ปัญหาเศรษฐกิจหากเราได้เข้าไปเป็นรัฐบาล 

“ต้นเดือนกันยายนถึงเวลาที่พรรคจะรุกเต็มรูปแบบ พร้อมเปิดแคมเปญใหญ่ของพรรค หลังจากนั้นพรรคจะยกทัพหลวงลงพื้นที่ในภาคต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นกระแสของพรรคให้ทุกภาค ซึ่งผม และคณะผู้บริหารจะลงพื้นที่ภาคใต้อีกครั้ง การเคลื่อนไหวของพรรคในเดือนกันยายนเป็นต้นไปเราจะเร่งทำงานอย่างหนัก  วันนี้เราต้องทำงานอย่างใกล้ชิด และช่วยกันอย่างเต็มที่” นายสนธิรัตน์ กล่าว 

ด้านนายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ผู้แสดงเจตจำนงเป็นผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคถือว่ามีศักยภาพเหนือกว่าพรรคอื่นๆ ทุกคนต้องถือเป็นส่วนหนึ่งของพรรค ขอย้ำว่าเราไม่สามารถหาคนที่ดีกว่าท่านได้แล้ว เพราะท่านคือคนที่ดีที่สุด ตลาดการเมืองภาคใต้เริ่มวายแล้ว