'เซเลนสกี' เผย อยากคุยกับ 'สี จิ้นผิง' หวังให้ช่วยเจรจากับ 'รัสเซีย' ยุติสงคราม

(4 ส.ค. 65) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เรียกร้องให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนเปิดโอกาสในการเจรจาโดยตรง พร้อมทั้งระบุว่า จีนไม่เคยตอบรับคำขอดังกล่าวมาตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากบุกยูเครนเมื่อ 5 เดือนก่อน

ประธานาธิบดีเซเลนสกี ให้สัมภาษณ์พิเศษหนังสือพิมพ์เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ในฮ่องกงผ่านแอปพลิเคชันซูมเป็นเวลา 40 นาที ซึ่งเป็นการให้สัมภาษณ์สื่อเอเชียเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดสงครามว่า จีนเป็นประเทศที่ทรงอิทธิพลมาก สามารถมีอิทธิพลทางการเมืองและทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย นอกจากนี้จีนยังเป็นสมาชิกถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติด้วย เขาจึงอยากสนทนาโดยตรงกับประธานาธิบดีสี หลังจากที่เคยสนทนากัน 1 ครั้งเมื่อหนึ่งปีก่อน เพราะยูเครนได้แจ้งอย่างเป็นทางการกับจีนแล้วตั้งแต่รัสเซียเริ่มการรุกรานครั้งใหญ่ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ แต่ยังไม่มีโอกาสจนถึงขณะนี้ทั้งที่น่าจะเป็นประโยชน์

ผู้นำยูเครนกล่าวว่า ประธานาธิบดีสีเป็นผู้นำเพียงไม่กี่คนที่เคยเยือนยูเครนอย่างน้อย 1 ครั้ง เขาเข้าใจดีว่า จีนต้องการคงความเป็นกลางต่อสงคราม แต่ขอย้ำว่าสงครามนี้เกิดขึ้นจากการที่รัสเซียรุกรานดินแดนของยูเครนทั้งที่ยูเครนไม่ได้ยั่วยุ จึงอยากให้จีนเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อรัสเซีย เขาเชื่อว่า จีนและยูเครนมีค่านิยมร่วมกัน เช่น การรักครอบครัวและลูกหลาน เขามั่นใจว่า จีนสามารถใช้อิทธิพลทางเศรษฐกิจกดดันให้รัสเซียยุติสงครามได้ เพราะหากจีนจำกัดการค้ากับรัสเซีย รัสเซียก็จะถูกโดดเดี่ยว พร้อมกับย้ำเรื่องสงครามส่งผลระยะยาวต่อความมั่นคงด้านอาหารและพลังงานโลก ซึ่งจะกระทบต่อสินค้าส่งออกของจีนอย่างแน่นอน เพราะประเทศต่าง ๆ ต้องนำเงินไปจ่ายค่าอาหารและพลังงานที่แพงขึ้น

ยูเครนและจีนสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 30 ปีเมื่อปีที่แล้ว ข้อมูลของสถานทูตยูเครนในจีนระบุว่า จีนเป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุดของยูเครนเมื่อปี 2564 โดยมีมูลค่าการค้าระหว่างกันเกือบ 19,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 685,520 ล้านบาท)


ที่มา : https://www.naewna.com/inter/671118