‘ก.ต่างประเทศรัสเซีย’ ซุ่มเงียบเยือนอาเซียน กระชับมิตรไมตรี คู่ขนานทริป ‘เพโลซี’

(4 สิงหาคม 2565) นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ได้เดินทางมาถึงกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เพื่อเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีอาเซียน ครั้งที่ 55 โดยจะมีตัวแทนรัฐมนตรีจาก 10 ชาติในอาเซียนข้าร่วมประชุมด้วย และจะมีการประชุมระดับทวิภาคี กัมพูชา-รัสเซีย กับ นาย ปรัก สุคน รัฐมนตรีต่างประเทศของกัมพูชา ในช่วงวันที่ 4-5 สิงหาคม

ก่อนหน้านี้ เซอร์เก ลาฟรอฟ ได้ไปเยือนกรุงเนปิดอว์ ประเทศพม่า เพื่อเข้าพบนาย วันนา เมือง รวิน รัฐมนตรีต่างประเทศของฝ่ายรัฐบาลทหารพม่าโดยเฉพาะ อันเนื่องจากรัฐมนตรีของพม่าไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมประชุม รมต. อาเซียนน ในกรุงพนมเปญ ด้วยเหตุสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพม่า 

โดย เซอร์เก ลาฟรอฟ ให้คำมั่นสัญญาว่ารัสเซียจะในการสนับสนุนด้านเศรษฐกิจ และสร้างเสถียรภาพให้กับพม่าที่ตอนนี้แตกยับเพราะปัญหาการเมืองภายในประเทศ

ภูมิภาคอาเซียนเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลัก ของทริปเดินสายเยือนประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกของรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย หลังจากที่มีการคว่ำบาตรของพันธมิตรชาติตะวันตกต่อรัสเซีย จากกรณีข้อพิพาทในยูเครน โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา เซอร์เก ลาฟรอฟ เดินทางไปแอฟริกา เพื่อเยี่ยมเยือนผู้นำของอียิปต์ คองโก อูกานดา และเอธิโอเปีย มาแล้ว

การมาเยือนอาเซียนของรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียหนนี้ จึงถือเป็นการรักษาระดับสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซียน อีกทั้งยังเป็นการเดินทางที่คู่ขนานไปกับกำหนดการเยือนประเทศพันธมิตรในแถบเอเชียของ แนนซี เพโลซี ประธานสภาของสหรัฐอเมริกา 

อย่างไรก็ตาม การมาถึงของ เซอร์เก ลาฟรอฟ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากสื่อตะวันตกว่า เป็นเหมือนการสนับสนุนรัฐบาลทหารพม่าในด้านอาวุธ ที่ถูกนำไปใช้ในการปราบปรามประชาชน อีกทั้ง ทั้งพม่า และ รัสเซีย ก็เป็น 2 ประเทศหลักที่ถูกคว่ำบาตรอย่างหนักจากสหรัฐอเมริกาและชาติพันธมิตร

หากย้อนกลับไปในช่วงเดือนพฤษภาคม 2565 ที่มีการประชุมผู้นำอาเซียน-สหรัฐฯ ที่จัดขึ้นในทำเนียบขาว โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ได้เคยกล่าวย้ำให้ผู้นำชาติอาเซียนรวมพลังคว่ำบาตรรัสเซียจากกรณีรุกรานยูเครน แต่ทั้งนี้หลายชาติในอาเซียนยังคงวางตัวเป็นกลาง โดยเฉพาะ พม่า, เวียดนาม และ ลาว ซึ่งถือเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นกับรัสเซียมานาน 

ยิ่งไปกว่านั้น โจโค วิโดโด ผู้นำอินโดนีเซีย ยังได้เดินทางไปเยือนทั้งยูเครน และรัสเซียเมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อพูดคุยถึงปัญหาการขาดแคลนอาหารที่เกิดจากผลกระทบของสงครามระหว่างรัสเซีย และ ยูเครน แสดงให้เห็นว่า อินโดนีเซีย ก็ต้องวางตัวเป็นกลาง เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ฝ่าย และประสงค์ที่จะหาทางออกโดยสันติวิธีผ่านความร่วมมือทางการค้า 

ทั้งนี้นอกเหนือจากรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียที่มาเยือนอาเซียนแล้ว ก็จะมีตัวแทนฝ่ายต่างประเทศจาก 2 ชาติมหาอำนาจ ทั้ง หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน และ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ มาร่วมประชุม รมต. อาเซียน ที่พนมเปญครั้งนี้ด้วย ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญในภูมิภาคอาเซียนอย่างมากจริง ๆ

ถึงกระนั้น ใครที่คาดว่าจะมีการประชุมนอกรอบระหว่างฝ่ายต่างประเทศของจีน และ สหรัฐฯ ในงานประชุมนี้ ก็คงจะไม่น่ามีลุ้น แม้ว่าจะเพิ่งเกิดกรณีบาดหมางระหว่างกัน ที่ แนนซี เพโลซี ประธานสภาสหรัฐฯ ที่ไปเยือนไต้หวันเพื่อยั่วยุรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ก็ตาม 


เรื่อง: ยีนส์ อรุณรัตน์

อ้างอิง: TASS / Anadolu Agency / NPR