รัฐบาล ยันเดินหน้าแก้หนี้ กยศ. ทุกมาตรการ พร้อมเร่งดันกฎหมายเข้าสภา หวังช่วยผู้กู้ที่เดือดร้อน เผยที่ผ่านมาช่วยปรับโครงสร้างหนี้กยศ. มีผู้ได้รับประโยชน์แล้วกว่า 2.3 ล้านคน

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการเร่งให้การช่วยเหลือลูกหนี้ กยศ.อย่างเต็มที่ ครอบคลุมการลดภาระหนี้ ลดความเสี่ยงถูกดำเนินคดี แก้กฎหมายให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้น ล่าสุดกองทุนฯ ร่วมกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม จัดงานไกล่เกลี่ยหนี้ทั่วประเทศเพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของผู้กู้ยืมเงินที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ 

มีกลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มที่ค้างชำระหนี้ที่ถูกบอกเลิกสัญญาและกำลังจะถูกฟ้อง และกลุ่มที่จะถูกบังคับคดี หากผู้กู้ยืมเข้ากระบวนการไกล่เกลี่ย กองทุนฯจะไม่ดำเนินคดี และนอกจากนั้น ผู้กู้ยืมจะได้รับส่วนลดเบี้ยปรับ รวมทั้งได้รับโอกาสในการขยายระยะเวลาผ่อนชำระได้ถึงอายุ 65 ปี เพื่อให้ผู้กู้ยืมสามารถกลับเข้ามาสู่ระบบการชำระหนี้ให้เป็นปกติ 

พร้อมทั้งขยายระยะเวลามาตรการลดหย่อนหนี้ เพื่อจูงใจให้ผู้กู้ยืมมาชำระเงินคืน จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 65 เป็นสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 65 โดยมีมาตรการ คือ 1. ลดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจากเดิม 1% ต่อปี เป็น 0.01% ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนกองทุนและไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้ 2. ลดเงินต้น 5% กรณีชำระหนี้ปิดบัญชี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้ 

3. ลดเบี้ยปรับ 100% สำหรับผู้กู้ยืมเงินทุกกลุ่มที่ชำระหนี้ปิดบัญชี 4. ลดเบี้ยปรับ 80% สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี เมื่อชำระหนี้ค้างทั้งหมดให้มีสถานะปกติ (ไม่ค้างชำระ) และ 5. ลดอัตราการคิดเบี้ยปรับเหลือ 0.5% ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีและไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด

 ขณะเดียวกัน ครม. ยังเสนอร่างพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่...) พ.ศ. .... ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฏร ซึ่งรัฐบาลได้เสนอให้กองทุนฯมีอำนาจในการปลดภาระผู้ค้ำประกัน เมื่อผู้กู้ยืมได้ผ่อนชำระเงินต้นมาแล้ว 25% ของเงินต้นที่ค้างชำระ รวมถึงเสนอการปรับลดเพดานอัตราดอกเบี้ยและดอกเบี้ยผิดนัดให้เหมาะสม

“นายกรัฐมนตรี มีความตั้งใจที่จะแก้ปัญหาหนี้กยศ. และสั่งการให้เป็นเรื่องเร่งด่วน มาตรการที่ได้ดำเนินการไปแล้วสามารถช่วยเหลือลูกหนี้และลดผลกระทบต่อผู้ค้ำประกันได้จริง โดยจากมาตรการลดหย่อนหนี้เพื่อจูงใจให้ลูกหนี้ชำระหนี้นั้น มีจำนวนผู้ได้รับประโยชน์นับตั้งแต่ ม.ค. 64 รวม 2.34  ล้านราย และยังมีลูกหนี้ที่ไม่ต้องถูกดำเนินคดีจากการเข้าสู่กระบวนการไกล่หนี้อีกจำนวนมาก  ขณะที่การเสนอร่างกฎหมายกองทุนฯ เป้าหมายเพื่อปฏิรูปโครงสร้างสินเชื่อ จะช่วยเหลือผู้กู้ที่เดือดร้อน อีกทั้งยังเป็นกฎหมายที่สร้างความเป็นธรรมให้แก่ผู้กู้และผู้ค้ำประกันมากขึ้นด้วย จึงอยากขอให้สภาฯผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ในเร็ววัน”