จีนเซ็นเซอร์!! โซเชียลบ่นแนวทางคุมโรค หลัง WHO โหมโควิดเป็นศูนย์ ‘ไม่ยั่งยืน’

จีนใช้มาตรการเซ็นเซอร์เพื่อปิดกั้นการถกเถียงในหมู่ชาวเน็ตแดนมังกร หลังจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมาวิจารณ์นโยบายคุม ‘โควิดเป็นศูนย์’ ของปักกิ่งว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ ‘ไม่ยั่งยืน’

จีนถือเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจรายเดียวของโลกที่ยังคงยึดนโยบายลดจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ให้เหลือศูนย์ และใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดเพื่อยับยั้งการระบาด

ยุทธศาสตร์ที่ว่านี้ส่งผลให้ประชากรส่วนใหญ่จากทั้งหมด 25 ล้านคนในนครเซี่ยงไฮ้ถูกบังคับกักตัวอยู่แต่ในที่พักอาศัยแบบไม่มีกำหนด ระหว่างที่รัฐบาลกำลังต่อสู้เพื่อยุติการระบาดครั้งใหญ่

ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการ WHO ออกมาเรียกร้องเมื่อ 10 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ให้จีนปรับแนวทางการควบคุมโรคเสียใหม่ เนื่องจากการคุมโควิดให้เป็นศูนย์อยู่ตลอดเวลานั้น “ไม่ยั่งยืน” ท่ามกลางการอุบัติขึ้นของเชื้อสายพันธุ์ย่อยใหม่ๆ ที่แพร่กระจายได้เร็ว

การ “แทรกแซง” ของ WHO ในครั้งนี้ ทำให้จีนต้องระดมหน่วยเซ็นเซอร์ เพื่อเร่งปิดกั้นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่ตามมาในสื่อออนไลน์

โดยแฮชแท็ก #Tedros และ #who ถูกปิดกั้นการค้นหาในไมโครบล็อกเวยปั๋ว ขณะที่ผู้ใช้แอปพลิเคชัน WeChat ก็ไม่สามารถแชร์บทความที่เผยแพร่ลงในบัญชีทางการขององค์การสหประชาชาติได้

อย่างไรก็ดี ก่อนที่แฮชแท็กและคำค้นหาเหล่านี้จะถูกปิดกั้นไปเมื่อช่วงเช้า ชาวเน็ตจีนจำนวนมากได้คอมเมนต์และตั้งคำถามเกี่ยวกับนโยบายปลอดโควิดของรัฐบาลปักกิ่ง โดยมีคนหนึ่งบอกว่า “แม้แต่ ผอ.อนามัยโลกก็ยังเปลี่ยนจุดยืนแล้วเลย” ขณะที่อีกคนตั้งคำถามว่า “รัฐบาลของเราจะฟังคำแนะนำของผู้อำนวยการ WHO ไหม?”

ชาวจีนจำนวนไม่น้อยเริ่มเหลืออดกับมาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวดเกินไป และไม่พอใจที่ภาครัฐดูเหมือนจะสั่งล็อกดาวน์แบบไม่มีที่สิ้นสุด โดยที่เซี่ยงไฮ้ก็มีเหตุปะทะระหว่างตำรวจกับประชาชนเกิดขึ้นอยู่เนืองๆ 

ทว่า ด้านพรรคคอมมิวนิสต์จีน ก็ให้เหตุผลว่า หัวใจของยุทธศาสตร์คุมโควิดเป็นศูนย์ คือ การถือ “ชีวิตคน” สำคัญกว่าความสะดวกสบายด้านวัตถุ และมันก็ช่วยให้จีนรอดพ้นจากวิกฤตด้านสาธารณสุขอย่างที่หลายๆ ประเทศเคยเจอกันมาแล้ว

ผลการศึกษาโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฟู่ตั้น ในเซี่ยงไฮ้ที่เผยแพร่ลงวารสาร Nature เมื่อวันอังคาร (10 พ.ค. 65) ระบุว่า หากจีนยกเลิกนโยบายคุมโควิดเป็นศูนย์ และปล่อยให้เชื้อสายพันธุ์โอมิครอนแพร่ระบาดไปทั่วประเทศ อาจจะมีผู้เสียชีวิตมากถึง 1.6 ล้านคน

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจีนระบุว่า อัตราการฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุยังคงต่ำอยู่ และสถานพยาบาลในชนบทอาจรองรับจำนวนผู้ป่วยไม่ไหว หากมีผู้ติดเชื้อโอมิครอนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ซุน ชุนหลาน (Sun Chunlan) รองนายกรัฐมนตรีจีน ได้ออกมาย้ำเตือนเมื่อวันจันทร์ (9 พ.ค.) ให้เจ้าหน้าที่ควบคุมโรคยึดแนวทางคุมโควิดเป็นศูนย์อย่างเข้มงวด เพื่อสร้างเงื่อนไขที่เอื้อต่อการจัดประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 ซึ่งจะมีขึ้นในเดือน พ.ย. และคาดว่าจะมีการลงมติต่ออายุให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ดำรงตำแหน่งผู้นำจีนต่อเนื่องเป็นสมัยที่ 3

หู ซีจิน (Hu Xijin) อดีตบรรณาธิการหนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์สซึ่งเป็นสื่อแท็บลอยด์ของรัฐบาลจีน โพสต์ข้อความลงบัญชีเวยปั๋ว ซึ่งมีผู้ติดตามราว 24 ล้านคนว่า “ท้ายที่สุดแล้ว WHO จะมองยังไงมันก็ไม่สำคัญหรอก”


ที่มา : รอยเตอร์ 
https://mgronline.com/around/detail/9650000044736