‘ก้าวไกล’ ติวเข้มว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อีสานใต้ มั่นใจปักธงได้แน่ แม้บางพรรครุกหนักในพื้นที่

จังหวัดนครราชสีมา - ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวในการอบรมสัมมนาว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคก้าวไกล ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างหรืออีสานใต้ ว่า การอบรมสัมมนาครั้งนี้ประกอบด้วย จ.นครราชสีมา, บุรีรัมย์, สุรินทร์, ชัยภูมิ และมหาสารคาม โดยในพื้นที่นี้ที่ผ่านมาเราอาจจะเห็นบทบาทของพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลพรรคหนึ่งซึ่งรุกหนักมาก ใช้จุดนี้เป็นฐานที่มั่นและหวังจะขยายจำนวน ส.ส.ในพื้นที่ อย่างบางจังหวัดที่ผ่านมาก็สามารถชนะยกจังหวัด หรือบางจังหวัดเมื่อเร็วๆ นี้ก็มีข่าวว่า ส.ส.พรรคฝ่ายค้านบางคนเตรียมย้ายไปสังกัดด้วยแล้ว ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งต่อไปน่าจะเป็นสนามการแข่งขันที่ดุเดือด แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับพรรคก้าวไกลเรามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าจะชนะได้ในหลายเขต โดยเฉพาะ จ.นครราชสีมา ที่จะเป็นประตูบานแรกเปิดสู่ภาคอีสาน ทำให้เรามี ส.ส.ในจังหวัดอื่นๆ ต่อไป 

“จากที่ผมเคยให้สัมภาษณ์ไปว่า สำหรับพื้นที่ภาคอีสาน พรรคก้าวไกลเรามั่นใจว่าจะมี ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 15 คน ก็ปรากฏว่ามีคณะทำงานรวมถึงว่าที่ผู้สมัครของเราหลายคนบอกว่า คำว่าไม่ต่ำกว่านี้น่าจะไม่ต่ำกว่าตัวเลขที่ให้ไปค่อนข้างมาก เพราะจากการทำงานอย่างต่อเนื่องของหลายๆ พื้นที่ ทั้งทีมจังหวัด ทั้งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เอง ทุกคนมั่นใจว่าพรรคก้าวไกลจะมี ส.ส.ภาคอีสานมากกว่า 15 ที่นั่งอย่างแน่นอน ยิ่งหลังจากผ่านการอบรมสัมมนากันไปแล้ว เรียกได้ว่าเสริมเขี้ยวเล็บให้กับทุกคนแล้ว ต่างมีทิศทางการทำงานที่ชัดเจนมากขึ้น เป็นรูปธรรมจับต้องได้มากขึ้น และทุกคนพร้อมที่จะทำงานหนักจากนี้ไปจนถึงการเลือกตั้งที่จะมาถึง และในส่วนของเขตอีสานตอนใต้ มั่นใจว่าจะมีเซอร์ไพรส์ให้เห็นในการเลือกตั้งครั้งหน้า” ชัยธวัช กล่าว 

ด้าน ญาณธิชา บัวเผื่อน ส.ส.พรรคก้าวไกล จ.จันทบุรี ในฐานะผู้ที่มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์การหาเสียงและการทำงานในพื้นที่ให้กับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กล่าวว่า จากที่มีโอกาสได้ร่วมการอบรมสัมมนากับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่ภาคอีสานในทุกกลุ่มจังหวัด พบว่าผู้สมัครหลายๆ คนมีศักยภาพสูงมาก มีการเตรียมตัวสำหรับการเลือกตั้งเป็นอย่างดี ลงพื้นที่กันอย่างต่อเนื่องมากๆ และนอกจากการไปแนะนำตัวให้พี่น้องประชาชนรู้จักแล้ว บางคนก็นำนโยบายที่พรรคออกแบบมาไปบอกเล่าและทำได้เป็นอย่างดี ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าภาคอีสานเป็นพื้นที่ที่น่าสนใจ แต่ละจังหวัดมีศักยภาพที่จะพัฒนาได้ถ้ามีนโยบายที่ตอบโจทย์ และนี่คือเรื่องสำคัญที่ว่านอกจากการเฟ้นหาผู้สมัครที่น่าสนใจแล้ว เราต้องติดอาวุธสำคัญคือเรื่องของนโยบายให้นำไปบอกต่อด้วย สำหรับตนเองก็ทำหน้าที่ในการนำประสบการณ์มาถ่ายทอดเล่าสู่กันฟัง เผื่อบางคนหรือบางพื้นที่จะนำไปประยุกต์ใช้ได้ เชื่อว่านี่จะเป็นภูมิภาคที่เราจะได้ ส.ส.เขตเป็นจำนวนมาก

ขณะที่ ฉัตร สุภัทรวณิชย์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล จ.นครราชสีมา เขต 1 กล่าวว่า โคราชเป็นประตูสู่ภาคอีสาน และสำหรับพรรคก้าวไกลแล้ว พวกเราเชื่อว่าโคราชยังจะเป็นประตูบานแรกที่เปิดไปสู่การมี ส.ส.อีสานอีกจำนวนมาก สำหรับในพื้นที่เมืองโคราช กระแสตอบรับพวกเราตั้งแต่ครั้งยังเป็นพรรคอนาคตใหม่มาจนเป็นพรรคก้าวไกลวันนี้ ต้องบอกว่าดีมากๆ ทุกคนให้การยอมรับในผลงานที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในสภาและการทำงานในพื้นที่ รวมถึงผลงานท้องถิ่นของคณะก้าวหน้าซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ช่วยหนุนเสริมด้วย ตนเองเคยเป็นผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมาในนามคณะก้าวหน้า หลังการเลือกตั้งก็ยังคงมุ่งมั่นทำงานในพื้นที่ต่อเนื่อง จนบางคนแซวว่านึกว่ายังอยู่ในช่วงเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ด้วยนโยบายที่มี ด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำงานหนักต่อไปตั้งแต่วันนี้จนถึงวันเลือกตั้ง จะทำให้สามารถปักธงในเขต 1 จ.นครราชสีมา เปิดประตูบานแรกสู่ภาคอีสานของพรรคก้าวไกลได้สำเร็จอย่างแน่นอน 

นัฏฐิกา โล่ห์วีระ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล จ.ชัยภูมิ เขต 1 กล่าวว่า ตั้งแต่มาร่วมงานกับพรรคก้าวไกลและเป็นว่าที่ผู้สมัครก็ทำงานในพื้นที่ทุกวัน ช่วยเหลือประชาชนในเรื่องต่างๆ เช่น ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างน้ำท่วม มีเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับเงินเยียวยา เราก็เข้าไปติดตามให้ หรือปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศในโรงเรียน ก็พาผู้เสียหายไปพบกับทางศูนย์ช่วยเหลือของจังหวัด สำหรับตนเองครั้งที่แล้วเคยเป็นผู้สมัครเขตนี้ในนามพรรคประชาธิปัตย์ อยู่ในกลุ่มนิวเด็มของพรรค แต่ตัดสินใจลาออกหลังเลือกตั้งเมื่อพรรคไปร่วมตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งขัดกับอุดมการณ์ที่ตัวเองเชื่อมั่น นั่นคืออุดมการณ์ประชาธิปไตย เพราะมีแต่ความเป็นประชาธิปไตยเท่านั้นที่จะช่วยแก้ไขปัญหาพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นความเหลื่อมล้ำ เรื่องการผูกขาดทรัพยากรต่างๆ ครั้งนี้ ได้มาร่วมกับพรรคก้าวไกล ประชาชนชาวชัยภูมิให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ยิ่งผนวกกับจุดแข็งของตัวเองอย่างการเข้าใจปัญหาในพื้นที่ เพราะที่ผ่านมาไม่ได้ไปพื้นที่แค่ตอนลงสมัครเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสไปช่วยงานการเมืองท้องถิ่นด้วย เชื่อว่าชาวชัยภูมิต้องการคนที่จะมาแก้ปัญหาให้เขาจริงๆ และพรรคก้าวไกลก็มีนโยบายที่จะตอบโจทย์เรื่องนี้ทั้งในระดับโครงสร้างและระดับพื้นที่ได้