หลักการหรือหลักกู  'ทิพานัน’ ติง 'ป๊อก’ ยุติความเห็นผิดเพี้ยน ปั่นนักการเมืองให้มีอภิสิทธิ์  เตือน!! คิดแบบ 'หลักกู' สังคมจะตราหน้า ‘นักกาลกิณีเมือง' 

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณี นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กเรื่องต้องทำลาย "กรงขังทางกฎหมาย" ที่ล้อมคอกนักการเมืองจนไม่กล้าทำอะไรโดยกล่าวหาว่ารัฐธรรมนูญ กฎหมาย กฎระเบียบที่ถูกออกแบบมาเพื่อตรวจสอบนักการเมือง ป้องกันการทุจริตคอรัปชันเป็นสิ่งที่ทำลายความคิดสร้างสรรค์ของนักการเมือง ว่า โพสต์ดังกล่าวเป็นการแสดงความคิดเห็นที่อันตราย มีการใช้ตรรกะแบบพวก “นอกกฎหมาย” โดยมีการประดิษฐ์คำสวยหรูและเหตุผลประกอบที่ชวนเชื่อให้ประชาชนไม่เคารพกฎหมาย ดังนั้นจึงไม่แปลกใจว่าทำไมพรรคการเมืองที่มีนายปิยบุตรเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายจึงทำการฝ่าฝืนกฎหมายโดยใช้เงินที่ผิดกฎหมายดำเนินกิจกรรมทางการเมืองจนถูกยุบพรรคเพราะ อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความคิดของนายปิยบุตรที่ไม่มี “หลักการ” มีแต่ “หลักกู”

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ กล่าวว่า ข้อความดังกล่าวแสดงให้เห็นว่านายปิยบุตรไม่ได้เป็นนักประชาธิปไตยและยึดมั่นหลักนิติธรรม (Rule of Law) ที่เป็นกฎเกณฑ์เพื่อกำหนดว่าบุคคลทุกคนตลอดจนรัฐบาลและสถาบันทุกสถาบันในชาติจำต้องปฏิบัติตามกฎหมายของรัฐ เพราะเมื่อหลักนิติธรรมมีผลบังคับใช้ กฎหมายทั้งหมดที่ได้ออกมาใช้บังคับแก่ประชาชนจะเป็นหลักประกันได้ว่าทุกคนจะได้รับการปฏิบัติอย่างเสมอภาค เท่าเทียม และด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม

ดังนั้นสิ่งนายปิยบุตรคิด จึงไม่ได้ยึดหลักคนเท่ากันตามที่ชอบกล่าวอ้าง นายปิยบุตรกำลังปลุกปั่นนักการเมืองให้ฝ่าฝืนหลักนิติธรรมและกำลังให้อภิสิทธิ์นักการเมืองเหนือประชาชนกลุ่มอื่น

"จึงอยากถามนายปิยบุตรว่าทำไมนักการเมืองถึงมีอภิสิทธิ์มากกว่าคนอื่น? ทำไมคนไม่เท่ากัน? ทำไมส่งเสริมให้นักการเมืองทำลาย "กรงขังทางกฎหมาย" เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบการทำงานและการทุจริตคอร์รัปชั่น? หรือว่านายปิยบุตรฝักใฝ่หลักกูมากกว่าหลักการจึงเห็นว่า Rule by Law ที่นายปิยบุตรกำลังสร้างขึ้นมานั้นมีความชอบธรรมมากกว่าหลักนิติธรรม Rule of Law ที่รัฐไทยกำลังยึดมั่นอยู่" น.ส.ทิพานัน กล่าว

น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อว่า ความสร้างสรรค์ของนักการเมืองที่นายปิยบุตรกล่าวอ้างนั้นไม่ใช่เหตุผลสมควรเพียงพอที่นักการเมืองจะใช้อภิสิทธิ์หลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบได้ ไม่มีประเทศประชาธิปไตยที่ไหนในโลกยอมรับเหตุผลนี้ รัฐธรรมนูญและกฎหมายไทยที่ออกแบบมาเพื่อตรวจสอบนักการเมืองและป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น ไม่ใช่สิ่งที่ทำลายความคิดสร้างสรรค์ของนักการเมือง แต่เป็นการยึดหลักตามมาตรฐานสากลในหลักการตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจ หรือ Check and Balance ที่ประเทศไทยและรัฐธรรมนูญไทยก็มีหลักการมาตรฐานเดียวกับประเทศสหรัฐอเมริกาที่เป็นประเทศชั้นนำด้านประชาธิปไตย เป็นหลักสากล โดยหลักการตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจเป็นหลักการสากลตามรัฐธรรมนูญที่รักษาสมดุลอำนาจผ่านการแบ่งแยกอำนาจออกเป็น 3 ส่วน คือฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ  และฝ่ายตุลาการ แต่ละฝ่ายจะมีอำนาจที่แตกต่างกันและคอยคานอำนาจซึ่งกันและกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ฝ่ายใดมีอำนาจมากเกินไป

“การกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายของบ้านเมืองไม่ใช่การกระทำที่สร้างสรรค์  ขอให้นายปิยบุตรระมัดระวังในการเสนอความคิดเห็น อย่าให้ความรู้กฎหมายที่ผิดเพี้ยน  อย่าให้นักการเมืองคนอื่นๆ หมดอนาคตทางการเมืองเพราะฝ่าฝืนกฎหมายแบบนายปิยบุตรและอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ทั้งหลายเลย  นักการเมืองที่ดีควรมีหลักการที่ถูกต้องและควรใช้วิจารณญาณในการรับฟังและทำตามหลักกูของนายปิยบุตร  และนายปิยบุตรเองก็ควรหลีกเลี่ยงความคิดแบบนี้ เพราะสังคมจะตราหน้าได้ว่าเป็น 'นักกาลกิณีเมือง' แทนที่จะเป็นนักการเมือง” น.ส.ทิพานัน กล่าว