รากหญ้าคือตัวแปร 'วิโรจน์' ลุย!! ถิ่นดอนเมือง ประชาชนตอบรับคึกคัก  ชี้!! พลังคนรากหญ้า ตัวแปรการเลือกตั้งหนนี้

วิโรจน์ ควง ผู้สมัครส.ก.เขตดอนเมือง พบปะประชาชนตลาดฝั่งโขง ทักทายและแนะนำนโยบาย พร้อมทั้งขึ้นรถปศรัย ชูนโยบายหลัก 12 ข้อ พร้อมเปลี่ยนกรุงเทพทันที ด้านไกรศักดิ์รับลูก เชื่อส.ก ต้องช่วยผู้ว่าฯ ทำหน้าที่เปลี่ยนกรุงเทพ

วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล ควง 'ตุ้ย ไกรศักดิ์ สังเวียง' ผู้สมัคร ส.ก. เบอร์ 5 พรรคก้าวไกล เดินตลาดเช้า ณ ตลาดริมโขง เขตดอนเมือง เพื่อพบปะพูดคุยกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่มาจับจ่ายใช้สอยในวันหยุดสุดสัปดาห์ และพ่อค้าแม่ในตลาดอย่างเป็นกันเอง ถัดจากการเดินตลาด วิโรจน์ พร้อม ตุ้ย ไกรศักดิ์ เดินขึ้นรถปราศรัย เพื่อหาเสียงแนะนำนโยบาย พร้อมขอคะแนนให้กับพี่น้องประชาชนที่ผ่านไปผ่านมาในพื้นที่

วิโรจน์ได้ยกตัวอย่างนโยบายแต่ละข้อของตน พร้อมกับไฮไลท์เรื่องบประมาณของกทม. ที่เพิ่มมากขึ้นเท่าตัวในช่วง 7 ปีที่ผ่าน และถ้าหากตนเป็นผู้ว่าจะมีการจัดสรรงบประมาณใหม่ เพื่อให้อำนาจในการตัดสินใจและการใช้งบประมาณอยู่ที่ประชาชนแทน พร้อมยกตัวอย่างนโยบาย "หยุดระบบอุปถัมภ์ด้วยงบที่คนกรุงเทพเลือกเองได้" ซึ่งจะมีการกระจายงบประมาณ "งบชุมชน" 500,000-1,000,000 บาทต่อปี ตามขนาดของชุมชน เพื่อให้ประชาชนและคนในพื้นที่นำเงินไปออกแบบแก้ไขปัญหา เพราะวิโรจน์เชื่อว่าคนที่เข้าใจปัญหาดีสุดคือประชาชน และ "งบเขต" เฉลี่ย 50 ล้านบาทต่อปี เพื่อทำโครงการที่เลือกโดยประชาชน และ "งบกรุงเทพ" จัดสรรเงิน 200 ล้านบาทต่อไปสำหรับ ทำโครงการเพื่อคนกทม.

ด้าน ตุ้ย ไกรศักดิ์ รับลูกวิโรจน์ ยืนยันหากได้ทำหน้าที่และได้รับความไว้วางใจ จะทำงานร่วมกับผู้ว่าฯ กทม. อย่างแข็งขัน และทำหน้าที่เป็นผู้เชื่อมประสานระหว่างผู้ว่าฯ และประชาชนในพื้นที่ในเรื่องของงบประมาณ การเป็นปากเป็นเสียงให้ประชาชน

ด้านวิโรจน์แสดงความมั่นใจการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ครั้งนี้ ว่าพลังที่จะเปลี่ยนกรุงเทพไม่ได้มีแค่คนชั้นกลาง แต่ยังรวมถึงคนรากหญ้าหาเช้ากินค่ำที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่ผ่านมา

“จากการพูดคุยกับประชาชน ผมเห็นสีหน้าและแววตาที่มีความหวังว่าการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มสวัสดิการให้พวกเขาได้จริงๆ จะช่วยให้เศรษฐกิจดีจากการกระจายงบประมาณลงมาสู่มือประชาชนได้จริงๆ ผมคิดว่านี่คือตัวแปรสำคัญที่จะเปลี่ยนกรุงเทพในการเลือกตั้งครั้งนี้” วิโรจน์กล่าวทิ้งท้าย