กิจกรรมเดินทางด้วยรถไฟ ท่องเที่ยวปลอดภัย ใช้ชีวิตแบบ Next Normal 

ณ สถานีรถไฟหัวลำโพง พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผบช.ทท. เป็นประธานจัดกิจกรรมเดินทางด้วยรถไฟ ท่องเที่ยวปลอดภัย ใช้ชีวิตแบบ Next Normal เส้นทางกรุงเทพ ฯ – พระนครศรีอยุธยา - กรุงเทพฯ สืบสานประเพณีไทย ท่องเที่ยววิถีใหม่ (New Normal) ณ วัดใหญ่ชัยมงคล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

พล.ต.ท.สุคุณ เปิดเผยว่า ตำรวจท่องเที่ยวในฐานะที่เป็นหน่วยงานที่ให้บริการ อำนวยความสะดวก รักษาความปลอดภัย อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น

ตาม “มาตรการรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ช่วงเทศกาลมหาสงกรานต์” ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยได้จัดทำแผนและมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ในห้วงวันที่ 8-17 เม.ย.65 ในการรักษาความสงบเรียบร้อย พร้อมนี้ขอประชาสัมพันธ์ “โครงการประชารัฐร่วมใจดูแลความปลอดภัยบ้านประชาชนช่วงเทศกาลสำคัญ (ฝากบ้าน 4.0) ระหว่างวันที่ 8-17 เม.ย.65 โดยกำหนดให้ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการฯ การลงทะเบียน ผ่าน Application “OBS” หรือยื่นแบบฟอร์มเข้าร่วมโครงการฯได้ที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน

นอกจากนี้ยังมีมาตรการบังคับใช้กฎหมายและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ในห้วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 เพื่ออำนวยความสะดวก รักษาความปลอดภัย และให้บริการแก่นักท่องเที่ยว โดยการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในด้านต่าง ๆ จัดสายตรวจตำรวจท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยว และสถานที่จัดงานเทศกาลสงกรานต์

 

การระดมกวาดล้างอาชญากรรมทุกรูปแบบที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวการจัดกำลังในการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชน หรือผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว เพื่อสร้างความร่วมมือในการให้บริการการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว โดยได้นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนภารกิจ การจัดตั้งให้บริการนักท่องเที่ยวทั้งสายด่วน 1155 และแอปพลิเคชัน Tourist Police i lert u เพื่อรองรับ การให้บริการในการรับแจ้งเหตุและให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ทั้งนี้สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งแอพพลิเคชั่น ได้ทั้งระบบ Android และ IOS จะมีเจ้าหน้าที่ล่ามแปลภาษาต่างประเทศ จำนวน 5 ภาษา (อังกฤษ รัสเซีย จีน เกาหลี และ ญี่ปุ่น) พร้อมให้บริการตลอด 24 ชม.

นอกจากนี้ หากต้องการติดต่อกับตำรวจท่องเที่ยวโดยตรง ก็สามารถเข้าไปติดต่อได้ที่ สถานีตำรวจท่องเที่ยว
ทั้ง  32  สถานี และจุดบริการนักท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวหลักจำนวน 170 แห่ง  ทั่วประเทศ ซึ่งคอยอำนวยความสะดวก ให้บริการ เพื่อรองรับและให้บริการจากประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ต้องการความช่วยเหลือ