‘อีลอน มัสก์’ ขึ้นแท่นถือหุ้นใหญ่สุด ‘twitter’ หลังทุ่ม 3 พันล้านเหรียญ ซื้อหุ้นเพิ่มอีก 9.2%

อีลอน มัสก์ ซีอีโอเทสลา ซื้อหุ้น 9.2 เปอร์เซ็นต์ในทวิตเตอร์ ส่งผลให้มัสก์เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด และทำให้ราคาหุ้นของทวิตเตอร์พุ่งกว่า 25 เปอร์เซ็นต์

เอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ของสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ระบุว่า มัสก์ได้ซื้อหุ้นในบริษัททวิตเตอร์ราว 73.5 ล้านหุ้น หรือ 9.2 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นมูลค่ารวมเกือบ 3 พันล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 1 แสนล้านบาท ตามราคาหุ้นหลังปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ 

การซื้อหุ้นครั้งนี้ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นในทวิตเตอร์ของมัสก์สูงกว่าแจ็ค ดอร์ซีย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตซีอีโอของทวิตเตอร์ ซึ่งปัจจุบันถือหุ้นสัดส่วน 2.25 เปอร์เซ็นต์ และทำให้เขาเป็นผู้ถือหุ้นสูงสุด

มัสก์เป็นผู้ใช้ทวิตเตอร์ตัวยง โดยที่ผ่านมาเขาได้ตั้งคำถามหลายครั้งถึงความสามารถที่จะสื่อสารได้เสรีบนทวิตเตอร์ อย่างเมื่อเดือนที่แล้ว เขาก็ได้ทวีตเกี่ยวกับเสรีภาพในการพูด และแพลตฟอร์มทวิตเตอร์ โดยตั้งโพลถามว่า “คุณเชื่อหรือไม่ว่าทวิตเตอร์ยึดมั่นในหลักเสรีภาพในการพูดอย่างแข็งแกร่ง” พร้อมระบุว่า “ผลจากโพลนี้สำคัญ”

ขณะที่อีกทวีตหนึ่ง มัสก์ได้ตอบคำถามผู้ใช้ทวิตเตอร์คนหนึ่งที่ถามว่า มีความคิดที่จะสร้างแพลตฟอร์มโซเชียลขึ้นมาใหม่ที่ประกอบด้วยอัลกอริทึมที่เปิดเผย ให้ความสำคัญกับเสรีภาพในการพูด และควบคุมการโฆษณาชวนเชื่อ หรือเปล่า ซึ่งมัสก์ก็ตอบว่า “กำลังพิจารณาอย่างจริงจัง”

อย่างไรก็ตาม การใช้ทวิตเตอร์ของมัสก์หลายครั้งก็ทำให้เจ้าตัวอยู่ในสถานการณ์ลำบากเช่นกัน โดยเมื่อปี 2018 มัสก์เคยทวีตว่า เขาได้หาทุนไว้สำหรับซื้อบริษัทเทสลาเป็นของตัวเอง หากราคาหุ้นแตะ 420 ดอลลาร์ ซึ่งสุดท้ายเขาก็ไม่ได้มีแหล่งเงินทุนตามที่อ้าง

นอกจากนี้ มัสก์ยังถูก กลต. สั่งว่า หากเขาจะทวีตอะไรเกี่ยวกับสถานะทางการเงิน ยอดขาย ตัวเลขส่งมอบรถยนต์ และข้อมูลอื่นๆ ของเทสลาบนทวิตเตอร์ จะต้องให้ทนายของบริษัทอนุมัติก่อน


ที่มา : https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/169559