‘ทิพานัน’ ชี้ ‘หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย’ คุณวุฒิด่างพร้อย ยกปม ‘ข้อสอบรั่ว’ ตราบาป ‘ทักษิณ’ ทิ้งให้ลูก

เมื่อวันที่ 22 มี.ค. น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่าพรรคเพื่อไทย โชคดีที่ได้สายเลือดพันธุกรรม ที่ต้องการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน และนำพาประเทศให้เป็นที่ยอมรับแต่ถูกกลั่นแกล้งถูกทำลาย ว่า หาก นพ.ชลน่าน หมายถึงนายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถือว่าสร้างความเข้าใจผิดให้กับสังคม เพราะทั้งคู่ไม่ได้ถูกกลั่นแกล้ง แต่หลบหนีคดีออกนอกประเทศเพราะไม่มีพยานหลักฐานพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ทั้งที่ไม่มีใครห้ามไม่ให้กลับประเทศ แต่ไม่ยอมรับผลกรรมการทุจริตโกงชาติบ้านเมือง กลัวติดคุกจึงเลือกไม่กลับ

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า นายทักษิณมีคดีที่ถูกพิพากษาจำคุก ได้แก่ คดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก จำคุก 2 ปี ปัจจุบันคดีหมดอายุความแล้ว, คดีหวยบนดินที่ศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา, คดีสั่งการให้เอ็กซิม แบงค์ อนุมัติเงินกู้สินเชื่อ อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าต้นทุน 4,000 ล้านบาทแก่รัฐบาลเมียนมา เพื่อซื้อสินค้าและบริการของบมจ.ชินแซทเทลไลท์ เอื้อประโยชน์แก่ตนเอง ศาลฎีกาฯ จำคุก 3 ปี ไม่รอลงอาญา, คดีนอมินีถือหุ้นบมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น ที่มีส่วนได้ส่วนเสียกิจการโทรคมนาคม โดยชินคอร์ปฯ เป็นคู่สัญญาหน่วยงานของรัฐ ศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา 

ส่วนยุคของน.ส.ยิ่งลักษณ์ มีคดีทุจริตจำนำข้าว ที่ศาลฎีกาฯ พิพากษา จำคุกเป็นเวลา 5 ปี ไม่รอลงอาญา, กรณีป.ป.ช.ชี้มูลกรณีแต่งตั้งโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ได้ตำแหน่งผบ.ตร. ซึ่งป.ป.ช. ชี้ว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนและมีวาระซ่อนเร้น เป็นการกระทำโดยทุจริต

นอกจากนี้ทั้ง 2 คนและญาติพี่น้องตระกูลชินวัตร ยังมีคดีที่อยู่ในชั้นของป.ป.ช. คือ คดีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ลอตสอง 8 สัญญา มีการแจ้งผู้ถูกกล่าวหาเพิ่มเติม คือ นายทักษิณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และคดีกล่าวหาอนุมัติสั่งซื้อเครื่องบินแบบ A340-500 และ A340-600 ของบมจ.การบินไทย ระหว่างปี 2545-2547 ทำให้การบินไทยมีหนี้สินเพิ่มมากขึ้น

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า จากพฤติการณ์ในคดี ประชาชนสามารถพิจารณาได้ว่าไม่ใช่การกลั่นแกล้ง ไม่ได้เป็นการทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน และส่วนใหญ่คดีมีผลประโยชน์ทับซ้อน เอื้อต่อคนในครอบครัวและธุรกิจของครอบครัว และยังมีตราบาปในยุคที่นายทักษิณ เป็นนายกฯ ที่ตอบสังคมไม่ได้ ในกรณีข้อสอบเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยรั่ว เพื่อเอื้อประโยชน์คนในครอบครัวชินวัตรหรือไม่ โดยกรณีดังกล่าวสังคมไม่เห็นขั้นตอนการตรวจสอบที่โปร่งใส และนายทักษิณตอกลิ่มความอัปยศ ให้หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่ถูกสังคมชี้หน้าว่าแค่ทำข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยยังทำไม่ได้ ต้องทุจริตข้อสอบ จนทำให้ประชาชนเสียโอกาส เมื่อไม่ได้รับการชี้แจงแก้ไขข้อมูลจากว่าจริงหรือไม่ให้กระจ่าง จึงน่าเห็นใจหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่ย้อนอดีตไปแก้ไขตราบาปที่พ่อฝากไว้ลูกรักไม่ได้

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ที่มาที่ไม่โปร่งใส โดยรุ่นพ่อ รุ่นอา ก็มีตัวอย่างต้นแบบหนีคดีทุจริตไปต่างประเทศ ประวัติศาสตร์ก็อาจซ้ำรอยได้ง่าย แม้จะพยายามออกมาแก้ตัวว่าเป็นวาทกรรมที่ถูกกลั่นแกล้ง ก็เป็นเพียงการสื่อสารการตลาดที่ผลิตออกมาเพื่อชวนเชื่อ ซึ่งความจริงคือคนไทยไม่เคยลืม สังคมวิจารณ์ว่าเป็นพันธุโกงส่งผลกรรมมาถึงลูกหลาน และเจ้าตัวรู้อยู่แก่ใจดีว่ามีการทุจริต มีการกลั่นแกล้งและอาศัยอำนาจที่ไม่ชอบธรรมมาตลอดทุกยุคตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นอาจริงหรือไม่”

“พรรคเพื่อไทย เปลี่ยนจากการใช้คำว่า พรรค มาเป็นครอบครัวทำให้พรรคการเมืองที่เป็นสถาบันการเมือง กลายเป็นเพียงธุรกิจครอบครัว เจ้าของธุรกิจก็ยังคงเป็นคนเดิม เพียงแต่ให้สมาชิกในครอบครัวที่ยังไม่โดนโทษคดีทุจริต หมุนเวียนกันมาเป็นหัวหน้ากิจการ ตั้งหัวหน้าครอบครัวคนใหม่ ขึ้นมาทั้งที่คุณวุฒิด่างพร้อย วัยวุฒิเป็นที่ถกเถียง วุฒิภาวะเป็นที่กังขา จึงอยากให้หัวหน้าพรรคเพื่อไทยพิจารณาตอบสังคม อย่าปล่อยสังคมถกเถียงเคลือบแคลงกัน ว่า เป็นสายเลือดพันธุกรรมที่ต้องการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน หรือสายเลือดพันธุกรรมโกงกันแน่” น.ส.ทิพานัน กล่าว