ส.ส.บัญชีรายชื่อเสรีรวมไทย ชี้ เสียงสวรรค์ของบิ๊กตู่ ไม่ใช่เสียงชาวบ้าน แต่คือเสียงของพรรคเล็ก ที่โหวตช่วยให้เป็นนายกฯ ต่อได้

น.ส.นภาพร เพ็ชร์จินดา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย กล่าวภายหลังการลงพื้นที่พบประชาชนอย่างต่อเนื่องว่า ชาวบ้านอยากเห็นมาตรการของรัฐบาลในการรับมือกับสถานการณ์สงครามที่มีแนวโน้มจะยืดเยื้อออกไป โดยเฉพาะแนวทางการแก้ปัญหาของแพงทุกชนิดทั้งอาหาร น้ำมัน ก๊าซหุงต้ม หรือไฟฟ้าที่เตรียมปรับราคาขึ้นอีก แต่สิ่งที่ประชาชนได้เห็นคือภาพการเปิดศึกชิงเสียง ส.ส.พรรคเล็กระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า โดยแทบไม่ได้ใส่ใจกับปัญหาปากท้องของประชาชนในขณะนี้เลย

“นอกจากตรึงราคาดีเซลแล้ว ชาวบ้านหวังว่ารัฐบาลน่าจะมีมาตรการอะไรมากกว่านี้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า แต่สิ่งที่ได้รับคือการบอกให้ประชาชนพึ่งตัวเองหรือให้ไปขึ้นรถเมล์แทน แล้วอย่างนี้เราจะมีนายกฯ ไว้ทำไม เพราะมีก็แก้ไขอะไรไม่ได้ ที่สำคัญดูเหมือนว่าวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้มันซับซ้อนเกินกว่า คนอย่างบิ๊กตู่จะแก้ไขได้ ชาวบ้านจึงอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงโดยเร็ว มีข่าวว่าข้าวแกงเตรียมจะปรับราคากันอีกเพราะแบกรับต้นทุนไม่ไหว ขึ้นราคากันเป็นแผงอย่างนี้จะให้พวกเขาทนไหวได้อย่างไร แค่เงินเติมน้ำมันกับซื้อ ATK ก็แทบจะไม่พออยู่แล้วนี่ข้าวแกงเตรียมขึ้นราคาอีกชาวบ้านจะไม่โวยได้อย่างไร” น.ส.นภาพรกล่าว

น.ส.นภาพรกล่าวต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์คงคิดว่าพรรคเล็กคือเสียงสวรรค์ที่จะค้ำบัลลังก์ให้ตัวเองได้ จึงพยายามเอาอกเอาใจอย่างเต็มที่ จากที่ไม่เคยเห็นหัว ส.ส.เหล่านี้มาก่อน ก็แย่งจัดเลี้ยงกันใหญ่ ขณะที่ชาวบ้านคงไม่รู้สึกยินดียินร้ายกับการแย่งเสียงพรรคเล็ก เพราะไม่ได้มีส่วนทำให้ปัญหาปากท้องของพวกเขาได้รับการแก้ไข แถมยังฝากถามด้วยว่าบิ๊กตู่จะอยู่อีกทำไม 1 ปี ในเมื่ออยู่ไปก็ไม่สามารถแก้อะไรได้ ควรยุบสภาหรือลาออกเปิดทางให้คนมีความสามารถเข้ามาดีกว่า อยู่ไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น มีแต่เสียงก่นด่าจากชาวบ้านที่เดือดร้อนจากภาวะข้าวของแพงหูฉี่แบบนี้

ที่มา : https://www.posttoday.com/politic/news/678167