“รัชดา” เผย รัฐบาล ไม่ทิ้งชาวสวนทุเรียน ชี้ เจรจาจีน ส่งออกผลไม้-ขยายตลาดสู่ตะวันออกกลาง เชื่อ สินค้าเกษตรปี65 โตขึ้น

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการส่งออกผลไม้ไทยไปประเทศจีน ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบาย Zero-Covid ของจีน ว่า การตรวจตราที่ด่านโหย่วอี้กวาน ผิงเสียง ตงซิง และโมฮ่าน ที่เข้มงวด ทำให้จราจรติดขัดและส่งผลกระทบต่อการส่งออกผลไม้ของทุกประเทศ ทำให้รัฐบาลบูรณาการการทำงานหลายกระทรวง และหารือฝ่ายจีนมาต่อเนื่อง เพื่อให้การขนส่งสินค้าไทยมีความคล่องตัว ไม่เกิดความเสียหาย นอกจากนั้นเร่งขยายตลาดสู่ประเทศตะวันออกกลางมากขึ้น จึงมั่นใจว่าปีนี้การส่งออกสินค้าเกษตรโตแน่นอน

น.ส.รัชดา กล่าวว่า รัฐบาลไม่เคยนิ่งนอนใจต่อการแก้ปัญหาการส่งสินค้าข้ามพรมแดนไปจีน โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ ได้บูรณาการการทำงาน ประสานกับทางการจีนตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของโควิด19 และแก้ปัญหาข้อติดขัดที่เกิดขึ้น จนทำให้การส่งออกผลไม้ปี 2563 มีมูลค่า 91,000 ล้านบาท ปี 2564 เพิ่มเป็น 160,000 ล้านบาท โดยเฉพาะทุเรียนมูลค่ากว่า1แสนล้านบาท และรัฐบาลได้หารือกับทางจีนในหลายประเด็น โดยขอให้ล้งไทยที่ผ่านกระบวนการอบรมหลักสูตร “ล้งปลอดโควิด-19” มี GMP Plus รับรอง กว่า 400 แห่ง สามารถผ่านด่านจีนได้โดยไม่ต้องเปิดทุกตู้ , การขนส่งบนเส้นทางรถไฟจีน-ลาว โดยการปิดตู้ที่ประเทศลาว ส่งไปคุนหมิงโดยไม่ต้องแวะตรวจที่ด่านโมฮ่าน เพื่อให้ส่งทุเรียนและผลไม้เศรษฐกิจอื่นทางรางได้ตั้งแต่เดือน มี.ค.นี้,เสนอให้มีการประชุมหารือกับประเทศจีน ลาวและเวียดนามเพื่อตกลงมาตรการร่วมกันเรื่อง protocol ในการเปิด-ปิดด่านชายแดน,เสนอให้ด่านมี Green Lane สำหรับผลไม้ไทยเป็นการเฉพาะ

น.ส.รัชดา กล่าวว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯสั่งการให้มีมาตรการรองรับปัญหาผลไม้เศรษฐกิจล่วงหน้าทั้งระบบปี 2565 ได้แก่ การรองรับเหตุการณ์ไม่ปกติ,การช่วยเหลือในการกระจายสินค้า ควบคุมคุณภาพ และกระตุ้นการบริโภคผลไม้,การช่วยเหลือสนับสนุนการส่งออกผลไม้ไทย,การแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มผลไม้ ,การช่วยเหลือเยียวยาและฟื้นฟูเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไม่ปกติ สำหรับตลาดใหม่ที่กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯเร่งทำการตลาด คือ ตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลาง อาทิ ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่มีความต้องการผลไม้สดจากไทยจำนวนมากและหลากหลายชนิด เช่น เงาะ มังคุด ลำไย มะม่วง ทุเรียน เป็นต้น 

ทั้งนี้การเยือนซาอุดีฯของนายกรัฐมนตรี จะนำไปสู่โอกาสทองการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม สินค้าเกษตรของไทยแล้ว และการเจรจาหารือ กับรัฐมนตรีด้านการค้าระหว่างประเทศแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ณ เมืองดูไบ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จะนำไปสู่การส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรและอาหารซึ่งมีมูลค่ารวมกว่าหมื่นล้านบาทต่อปี และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 4.6”