'ยูเครน-รัสเซีย' เจรจารอบแรกเหลว ด้าน ปธน.ยูเครน ชิงลงนามสมัครเป็นสมาชิกอียู

1 มีนาคม 2565 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน การเจรจาหยุดยิงระหว่างสองชาติยูเครนและรัสเซียในครั้งแรกดูเหมือนจะไร้ผล เมื่อรัสเซียยังคงปฏิบัติการทางทหารอย่างดุเดือดต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 โดยยิงขีปนาวุธถล่มเมืองคาร์คิฟ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของยูเครนจนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ขณะที่ในกรุงเคียฟมีทั้งเสียงปืน เสียงระเบิด เสียงสัญญาณไซเรนดังทั่ว

อย่างไรก็ดี แม้ทหารรัสเซียจะตรึงกำลังอยู่ห่างจากกรุงเคียฟไปทางเหนือเพียง 30 กิโลเมตร แต่ต้องเผชิญการต้านทานที่แข็งแกร่งจากกองทัพยูเครน ทำให้ยังไม่สามารถบุกยึดได้ เช่นเดียวกับสถานการณ์ในเมืองเชอร์นิฮิฟ ซึ่งมีการสู้รบระหว่างสองฝ่าย จนทำให้บ้านเรือนจำนวนมากและร้านค้าหลายแห่งเสียหายจากกระสุนปืนใหญ่และขีปนาวุธ ขณะที่ทางการยูเครนยังยืนยันว่ายังสามารถรักษาทั้งกรุงเคียฟ เมืองคาร์คิฟ และเมืองเชอร์นิฮิฟ เอาไว้ได้

สำหรับการเจรจาหยุดยิงระหว่างผู้แทนรัสเซียและยูเครนปิดฉากลงแล้ว โดยไม่มีความคืบหน้าใดๆ พร้อมเดินทางกลับเมืองหลวงของตนเองเพื่อหารือกันเองเพิ่มเติม แต่ตกลงที่จะเจรจากันรอบใหม่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ทั้งนี้ การเจรจาจัดขึ้น ณ สถานที่แห่งหนึ่ง ในเมืองโกเมล ใกล้กับแม่น้ำปรือเปียต ซึ่งเป็นพรมแดนธรรมชาติระหว่างเบลารุสกับยูเครน โดยรัฐบาลเคียฟยื่นเงื่อนไขของตัวเอง คือการร่วมกันหยุดยิงทันที เพื่อยุติการสู้รบที่ยืดเยื้อตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา และการที่รัสเซียต้องถอนทหารออกจากยูเครน ซึ่งรวมถึงบนคาบสมุทรไครเมีย และภูมิภาคดอนบาสด้วย

ขณะที่ ความเคลื่อนไหวในยูเครน มีการเปิดเผยข้อมูลจากรัฐสภายูเครนว่า โวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ได้ลงนามสมัครเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปแล้ว โดยได้ลงนามในเอกสารเพื่อยื่นขอสมาชิกภาพในสหภาพยุโรป หรือ EU ซึ่งเป้าหมายของยูเครนคือการเข้าร่วมกับประเทศในยุโรปทั้งหมด โดยมีสถานะที่เท่าเทียมกัน

ทั้งนี้ Twitter ของรัฐสภายูเครน ระบุว่า "นี่คือช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์" (This is a historic moment!)

นอกจากนี้ ยูเครนยังได้เรียกร้องให้สหภาพยุโรป ยอมรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิกอียูในทันทีภายใต้เงื่อนไขพิเศษโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการพิจารณาสมาชิกภาพ เชื่อจะช่วยให้ยูเครนสามารถรับความช่วยเหลือจากชาติสมาชิกอียูในการป้องกันตนเองจากการโจมตีของรัสเซียได้ดียิ่งขึ้น

ขณะที่ ทำเนียบเคลมลิน แถลงว่า เมื่อวานนี้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้หารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส โดยผู้นำรัสเซีย เน้นย้ำว่า การแก้ไขปัญหาดังกล่าว ขึ้นอยู่กับว่า ชาติตะวันตกจะต้องเคารพอย่างไม่มีเงื่อนไขต่อผลประโยชน์อันชอบธรรมของรัสเซียในประเด็นความมั่นคง ซึ่งรวมถึงการยอมรับอธิปไตยของรัสเซียเหนือไครเมีย, การปลดอาวุธยูเครน และทำให้เป็นเขตปลอดทหาร รวมทั้งรับประกันว่ายูเครนจะมีสถานะรัฐที่เป็นกลาง


ที่มา : https://www.naewna.com/inter/638576
https://www.tnnthailand.com/news/ukraine-russia-war/106436/
https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=3020865408163815&id=100007211555008