หญิงสาวแชร์คลิปถูกแฟนเก่าทำร้ายจนสูญเสียดวงตา แต่อีกฝ่ายรอดคุก แถมเยียวยาไม่นานก็เงียบหาย

เฟซบุ๊ก 'Thanyarat Thamoi' หรือ ธัญญารัตน์ ถาม่อย ผู้สื่อข่าวจากช่อง 8 ได้โพสต์ข้อความถึงกรณี นางสาวณัฐณิชา ประมูลชัย หรือ 'น้องนัท' หญิงสาววัย 23 ปี ที่ได้โพสต์คลิปการใส่ดวงตาเทียมของตัวเองลงใน TikTok พร้อมเขียนข้อความว่า “ตอนแรกก็อายที่จะลง แต่ว่าคนที่อายไม่ควรเป็นเรา” 

โดย นัท เล่าเหตุการณ์ที่ติดอยู่ในใจของเธอมา 6 ปีเต็ม หลังเธอถูกแฟนเก่าซ้อมจนเกือบตายต้องเสียดวงตาไปหนึ่งข้าง นัทบอกว่าแม่ของเธอแทบใจสลายเพราะเงินแสนที่อีกฝ่ายต้องให้ เทียบไม่ได้กับอวัยวะที่แม่ให้มาครบ 32 

หลังคลิปนี้เผยแพร่ออกไป มีคนเข้ามาดูมากกว่า 2 ล้านครั้ง ให้กำลังใจและชื่นชมในความเข้มแข็งของเธอ

เรามีโอกาสได้คุยกัน... 

ถ้าไม่รู้เรื่องราวมาก่อน เราแทบไม่สังเกตเห็นร่องรอยความเจ็บปวด นัทไม่ต่างจากเด็กสาววัยรุ่นบุคลิกสดใสคนหนึ่ง 

นัทเล่าว่าเหตุการณ์ที่เป็นเหมือนฝันร้าย เกิดขึ้นเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ขณะเธออาศัยอยู่ที่บ้านแฟนเก่าที่ #จังหวัดภูเก็ต แล้วเกิดมีปากเสียงกันเรื่องเล็กน้อย แต่อีกฝ่ายซึ่งมีพฤติกรรมรุนแรงอยู่แล้ว ทำร้ายร่างกายและชกเข้าที่เบ้าตาจนเธอสลบไป 

นัทตื่นมาอีกทีที่โรงพยาบาล... 

แพทย์แจ้งว่าต้องผ่าตัดเอาเนื้อดวงตาของเธอออกหนึ่งข้าง เนื่องจากดวงตาและเบ้าตาได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนัก นัทรักษาตัวอยู่นาน จนถึงวันนี้เธอยังคงต้องใส่ดวงตาเทียมและใช้สายตาได้เพียงแค่ข้างเดียว 

ส่วนผู้ก่อเหตุ... 

ขณะนั้นเขาอายุ 17 ปี ถูกจับขึ้นศาลเยาวชนในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ไม่นานก็ได้รับการประกันตัวออกมา ศาลสั่งให้จ่ายค่าเยียวยา 270,000 บาท โดยฝ่ายผู้ก่อเหตุเจรจาขอผ่อนจ่ายเดือนละ 5,000 บาท แต่ชดใช้ไม่นานก็หายเงียบ 

นัทกับแม่ก็เลือกที่จะกลับมาใช้ชีวิตและหางานที่กรุงเทพฯ เพราะไม่มีเงินไม่มีเวลาจ้างทนายความไปเดินเรื่องที่ภูเก็ต ตอนนี้เธอใส่ตาเทียม 1 ข้าง และขายของเป็นแชมพูสำหรับหมาแมวทางออนไลน์ มีแฟนที่ดี และมีชีวิตของตัวเองที่เลือกจะสู้ต่อ 

สาเหตุที่นัทตัดสินใจออกมาเล่าเรื่องของตัวเอง 

นัทเล่าว่าเธอไปเห็นคลิปข่าวต่างประเทศเรื่องการตัดสินคดีที่เยาวชนก่อเหตุรุนแรงและต้องถูกจำคุก จึงนึกย้อนถึงเรื่องของตัวเองที่ติดอยู่ในใจมาโดยตลอด จนถึงตอนนี้อีกฝ่ายไม่เคยต้องเสียอิสรภาพ และยังใช้ชีวิตดีๆ อยู่ โดยไม่ชดใช้เยียวยาเธอด้วยซ้ำ

นัทอยากให้กำลังใจหญิงสาวคนอื่นๆ ที่ถูกกระทำหรือตกเป็นเหยื่อความรุนแรง ให้ออกมาพูดและยืนหยัดต่อสู้ นอกจากนั้นคือการภูมิใจในร่างกายของตัวเอง เหมือนที่เธอภูมิใจและมั่นใจ แม้จะไม่มีร่างกายครบ 32  

ไม่จำเป็นต้องอาย เพราะคนที่ควรต้องอายคือผู้กระทำ


ที่มา : https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10220793801343625&id=1495843487