ศาลให้ประกันตัว’สรศักดิ์’ 1 แสนบาท!! พร้อมขอ ‘พรเพชร’ เป็นพยานคดี ’วัชระ’ ฟ้องผิดม.157,172 กรณีแจ้งเท็จ-ไม่ส่งเอกสารตามหมายเรียกของศาลอาญา

(21ม.ค.65)ว่าที่ร้อยตรี สุทธิศักดิ์ ประศาสน์ครุการ ทนายความของนายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส. พรรคประชาธิปัตย์เปิดเผยว่า ตามที่นายวัชระ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสรศักดิ์ เพียรเวช อดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในฐานแจ้งความเท็จและประพฤติมิชอบ อันเป็นความผิดประมวลกฎหมายอาญาม. 157 และ 172 นั้น

 ศาลได้ออกนั่งบัลลังก์ 702 นัดสอบคำให้การของนายสรศักดิ์ เพียรเวช จำเลยว่าจะให้การรับสารภาพผิดหรือปฏิเสธสู้คดี ซึ่งจำเลยได้ให้การปฏิเสธ โดยร้องขอต่ออัยการจากสำนักงานอัยการฝ่ายแก้ต่าง ให้มาเป็นทนายความแก้ต่างให้จำเลย พร้อมอ้างขอพยานจำนวน 8 ปากคือ นายสรศักดิ์ เพียรเวช อดีตเลขาธิการสภาฯ อ้างตนเองเป็นพยานน.ส.สิริธร ลิมปะพยอม ผอ.สำนักรายงานการประชุมฯ นายณัฐวัชร์ มังคละคุปต์ ผบ.กลุ่มงานพัฒนาระบบ นายนัฑผาสุข อดีตเลขาฯสนง.เลขาฯวุฒิสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา นางอศยา วังวล ผบ.กลุ่มงานบริหารงานทั่วไป นางอารยะหญิง จอมพลาพล ผอ.สำนักบริหารงานกลาง และนายจักรพันธ์ จันทรเจริญ ผอ.สำนักกฎหมาย 

ศาลมีคำสั่งให้คู่ความดำเนินการดังต่อไปนี้ภายใน 45 วัน นับแต่วันนี้

1. ตรวจสอบพยานหลักฐานของอีกฝ่ายหนึ่งและทำเป็นหนังสือยื่นต่อศาลว่ายอมรับหรือโต้แย้งพยานหลักฐานดังกล่าว หากโต้แย้งให้แสดงเหตุแห่งการโต้แย้งโดยชัดแจ้ง มิฉะนั้นถือว่ายอมรับพยานหลักฐานของอีกฝ่ายหนึ่ง

2. แถลงแนวทางการเสนอพยานหลักฐานในประเด็นที่ยังโต้แย้งกัน ทั้งพยานวัตถุ พยานเอกสาร พยานบุคคลและหลักฐานอื่นที่คู่ความจะสืบพยานให้คู่ความมาศาล เพื่อดำเนินการในเรื่องดังกล่าวร่วมกับเจ้าพนักงานคดี ให้นัดตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานโดยเจ้าพนักงานคดีรวม 1 นัด ในวันที่ 17 ก.พ.65 เวลา 9.00 น.กรณีที่คู่ความไม่มาในวันนัดตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานโดยเจ้าพนักงานคดี หรือไม่ดำเนินการตามคำสั่งศาลดังกล่าว ถือว่าคู่ความมีความพร้อมดำเนินกระบวนพิจารณา และไม่มีข้อขัดข้องใด  ศาลจะพิจารณาตรวจพยานหลักฐานไปตามรูปคดีที่ปรากฎในสำนวนและตามรายงานของเจ้าพนักงานคดีต่อไป ให้ประกันตัวจำเลยโดยวางหลักทรัพย์จำนวน 1แสนบาทและให้นัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 16 มี.ค. 65 เวลา 9.30 น. 

 

คดีนี้นายวัชระ โจทก์ได้บรรยายคำฟ้องว่า นายสรศักดิ์ เป็นหัวหน้าส่วนราชการสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรมีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบในการบริหารราชการของสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นไปตามกฎหมาย ข้อบัญญัติ ระเบียบ และข้อบังคับของทางราชการ มีอำนาจสั่งการ อนุญาต และอนุมัติ และกระทำการแทนสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา และยังได้รับการแต่งตั้งจากประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้เป็นคณะกรรมการเร่งรัดและติดตามโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่

จำเลยซึ่งเป็นผู้ครอบครองเอกสารและได้รับหมายเรียกพยานเอกสารของศาลอาญา คดีอาญาหมายเลขดำที่อ.838/2561 ระหว่างนายชัชวาล อภิบาลศรี โจทก์ และนายวัชระ เพชรทอง จำเลย ให้เร่งรัดส่งเอกสารที่อยู่ในความครอบครองของจำเลย ไปยังศาลอาญา เพื่อใช้ในการพิจารณาคดี  แต่นายสรศักดิ์ได้บังอาจแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่ออธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา แจ้งว่าไม่สามารถจัดส่งให้ได้ เนื่องจากไม่มีแถบบันทึกเสียงการประชุมของคณะกรรมการเร่งรัดและติดตามโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ถือว่าเป็นการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ เพราะความจริงแล้วในการประชุมของคณะกรรมการเร่งรัดและติดตามโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ได้มีการบันทึกชวเลข แถบเสียง และบันทึกการประชุม โดยมีรายละเอียดผู้เข้าประชุม ผู้ไม่ได้เข้าประชุม วันเดือนปี ครั้งที่และข้อความที่ประชุม ซึ่งเป็นเอกสารราชการ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 จำเลยซึ่งเป็นกรรมการและผู้เข้าร่วมการประชุม เป็นผู้ครอบครองเอกสารดังกล่าว และทราบดีว่าต้องมีการบันทึกชวเลข แถบเสียง หรือรายงานชวเลข และบันทึกการประชุมไว้และต้องเก็บรักษาไว้ที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรตามกฎหมาย  ทั้งนี้เพื่อช่วยเหลือนายชัชวาล อภิบาลศรี ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการเร่งรัดและติดตามโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่