สุดสลด! พบซากเสือโคร่ง 2 ตัว ปืน 4 กระบอก เจ้าหน้าที่ เร่งล่า 5 คนร้าย มาดำเนินคดี

สุดสลดใจ 5 นายพรานใจบาป ใช้ซากวัวเป็นเหยื่อล่อสัตว์ป่า จ่อยิงเสือโคร่งเสียชีวิตพร้อมกัน 2 ตัว นำมาแร่เนื้อย่างไฟแล้วเอาหนังไปตากแห้ง ขณะจนท. เข้าจับกุม สุนัขนำทางเกิดเห่า ทำคนร้ายหนีรอดหวุดหวิด มีคนโทรหาจนท. ขออาวุธปืนลูกซอง 5 นัดคืน อ้างเป็นของอปพร. 

เมื่อวันที่ 12 มกราคม 65 ที่ผ่านมา - นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า ได้เกิดเหตุการณ์สลดขึ้น ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ โดยระหว่างวันที่ 8-11 ม.ค.ที่ผ่านมา นายเจริญ ใจชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ได้สั่งการให้พนักงานพิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ รวม 10 นาย นำโดยนายวันชัย สูนคำ พนักงานพิทักษ์ป่าฯ ออกลาดตระเวนตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา เป็นเวลา 4 วัน 3 คืน โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีกลุ่มบุคคลเข้าไปลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ที่มีพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศเมียนมา

จนกระทั่งเวลา 10.00 น. ของวันที่ 9 ม.ค. เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าได้ลาดตระเวนไปถึงป่าลำห้วยปิล๊อก หมู่ 4 ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ที่อยู่ห่างจากในเขตชายแดนไทย-พม่า ประมาณ 3-4 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบกลุ่มควันไฟมาจากลำห้วย จึงทำการซุ่มเข้าตรวจสอบ พบกลุ่มบุคคล จำนวน 5 คน ตั้งแคมป์อยู่ริมลำห้วย ระหว่างเข้าทำการจับกุมตัวนั้น ปรากฏว่าสุนัขของกลุ่มคนร้ายที่ใช้นำทางเห่าหอนขึ้นมาเสียก่อน ทำให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวเห็นเจ้าหน้าที่แล้ววิ่งหลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พยายามวิ่งไล่แต่ไม่ทัน เนื่องจากกลุ่มบุคคลเหล่านั้นชำนาญเส้นทางเป็นอย่างดี

จากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบแคมป์พัก เจ้าหน้าที่ทุกนายต่างรู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากพบว่าเสือโคร่งถูกยิงเสียชีวิต จำนวน 2 ตัว แล้วแร่เอาเนื้อมาย่างไฟ ส่วนหนังของเสือโคร่งทั้งสองตัว ถูกนำมาขึงให้แห้ง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบอาวุธปืน จำนวน 4 กระบอก พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ อีก จำนวน 29 รายการ ตกอยู่ที่แคมป์พัก 

จากการตรวจสอบโดยรอบ พบซากวัวจำนวน 1 ตัว ถูกนำมาผูกเอาไว้กับต้นไผ่ สำหรับเอาไว้เป็นเหยื่อล่อเสือโคร่งให้มากินเป็นอาหาร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเสือโคร่งทั้ง 2 ตัว คงจะออกมาหากินตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา 

ต่อมาวันที่ 11 ม.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบซากเสือโคร่งรวมทั้งอาวุธปืนเพื่อรวมเป็นหลักฐานอยู่นั้น นายชูชาติ สวดมนต์ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ได้รับสายโทรศัพท์ จากคนที่อ้างตนเองว่าชื่อนายป้อม ทองผาประวิติ โดยนายป้อม ได้โทรมาขออาวุธปืนลูกซอง 5 นัด ยี่ห้อวินเชสเตอร์ หมายเลขประจำปืน 1526415 คืนจากเจ้าหน้าที่ โดยแจ้งว่าอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวนั้นเป็นของนาย บุญถิ่น จันทร์เขต เจ้าหน้าที่อปพร. จากข้อมูลดังกล่าวเจ้าหน้าที่จะทำบันทึกเอาไว้เป็นหลักฐานเพื่อมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริง ว่าบุคคลที่แอบอ้างนั้นมีตัวตนจริงหรือไม่

นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผอ.สบอ.3 (บ้านโป่ง) กล่าวว่า ส่วนในวันนี้ (12 ม.ค.) เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ได้นำหลักฐานที่มีอยู่ทั้งหมด เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ เพื่อติดตามหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เชื่อว่าหลักฐานที่มีอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีในโดยเร็วอย่างแน่นอน

และนอกจากนี้ตนยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เก็บตัวอย่างซากเสือโคร่งทั้ง 2 ซากส่งไปตรวจ DNA ที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ อย่างละเอียดเพื่อให้ทราบว่าเสือทั้ง 2 ตัวมีอายุประมาณเท่าไหร่ และถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดใด เพื่อใช้เป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป 


ที่มา : https://www.facebook.com/210212409707150/posts/1018884812173235/