เติร์กเมนิสถาน เล็งดับไฟ ‘ประตูสู่นรก’ หลังไฟลุกไหม้มานานนับครึ่งศตวรรษ

ผู้นำเติร์กเมนิสถานมีคำสั่งให้ผู้เชี่ยวชาญไปค้นหาวิธีที่จะดับไฟในหลุมก๊าซธรรมชาติดาร์วาซา (Darvaza) ซึ่งเกิดการลุกไหม้มานานนับ 50 ปี จนได้รับฉายาว่าเป็น “ประตูสู่นรก” (Gateway to Hell)

ประธานาธิบดี กูร์บันกูลี เบอร์ดีมูคาเมดอฟ แถลงผ่านสื่อโทรทัศน์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (8 ม.ค.) โดยขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งหาวิธีดับไฟในหลุมก๊าซดาร์วาซา กลางทะเลการากุม เนื่องจากส่งผลกระทบทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ผู้นำเติร์กเมนิสถานเคยออกคำสั่งให้มีการดับไฟ และปิดหลุมก๊าซดาร์วาซามาแล้วรอบหนึ่งเมื่อปี 2010

เบอร์ดีมูคาเมดอฟ ย้ำว่า หลุมที่มนุษย์สร้างขึ้นนี้ “ก่อผลเสียทั้งต่อสภาพแวดล้อม และสุขภาพของประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้เคียง” พร้อมทั้งสั่งให้เจ้าหน้าที่ “ไปหาวิธีที่จะดับไฟให้ได้”

“เรากำลังสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่า ทั้งที่ควรจะได้กำไรมหาศาลจากมัน และนำมันมาใช้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน”

หลุมก๊าซซึ่งมีความกว้างราว 70 เมตร และลึก 30 เมตรนี้เกิดจากความผิดพลาดระหว่างที่วิศวกรกำลังขุดเจาะสำรวจน้ำมันในยุคสหภาพโซเวียต แต่ดันขุดไปเจอโพรงที่เต็มไปด้วยก๊าซ จนทำให้พื้นดินจุดที่ตั้งแท่นขุดเจาะนั้นยุบลงไปเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่

เพื่อป้องกันไม่ให้ก๊าซอันตรายแพร่กระจายออกไป พวกวิศวกรโซเวียตจึงตัดสินใจจุดไฟขึ้น โดยหวังว่าก๊าซคงจะถูกเผาไหม้หมดไปในเวลาแค่ไม่กี่วัน แต่ปรากฏว่ามันยังคงลุกไหม้ต่อมาอีกหลายทศวรรษ และทางการเติร์กเมนิสถานก็ยังหาวิธีดับไฟไม่ได้สักทีด้วย

อย่างไรก็ดี หลุมก๊าซแห่งนี้ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของเติร์กเมนิสถาน และได้รับการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการเมื่อปี 2018 ว่า “ประกายแสงแห่งทะเลทรายการากุม” (Shining of Karakum)


ที่มา : เอเอฟพี, mgronline