“นายกฯ” ชวน คนไทยเช็คอินท่องเที่ยวไทย ชม รัฐ-เอกชน โปรโมททท.โดนใจคนรุ่นใหม่ เผย “เราเที่ยวด้วยกัน” ยังเหลือที่พัก 1.2 แสนห้อง

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรมว.กลาโหม ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ เพราะนำไปสู่การกระจายรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการทุกขนาด การจ้างงานภาคประชาชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ขณะนี้ได้เปิดประเทศให้นักท่องเที่ยงต่างชาติเดินทางเข้ามาแล้ว ดังนั้น การส่งเสริมให้คนไทยเที่ยวไทยจึงเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประมาณการณ์ว่า สิ้นปี 2564 จะมีคนไทยเที่ยวไทย รวม 100 ล้านครั้ง 

ขณะที่ยอดนักท่องเที่ยวชาวไทยถึงสิ้นเดือนพ.ย. อยู่ที่ 92 ล้านครั้ง มีรายได้จากการท่องเที่ยวรวมประมาณ 6.5 แสนล้านบาท สำหรับมาตรการของรัฐบาล เช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 ขณะนี้ จำนวนสิทธิที่พักเหลือ 120,273 แสนห้อง จึงขอเชิญชวนประชาชน รีบจองที่พัก ก่อนจะสิ้นสุดสิทธิในวันที่ 23 ม.ค.2565 และสามารถใช้สิทธิ์เข้าพักได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2565 

น.ส.รัชดา กล่าวว่า หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ได้จัดทำแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยว และจุดสนใจ โดยมีเนื้อหาและรูปแบบที่น่าสนใจ สไตล์คนรุ่นใหม่ เช่น เว็ปไซต์ชิลไปไหน คลิปภาพยนตร์โฆษณาในรูปแบบ Musical Story ชุด “มาเที่ยวเถอะนะอยากเจอ” ส่วนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “ยิ่งไป ยิ่งให้ ยิ่งสุขใจกว่าที่เคย” มีมิติแหล่งท่องเที่ยวที่งดงาม วิถีชีวิตผู้คน และการท่องเที่ยวแบบรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และแอปพลิเคชัน “เที่ยวเท่ๆ เสน่ห์เมืองไทย”

ด้านกระทรวงวัฒนธรรม รวบรวมข้อมูลของ 10 สุดยอดต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี”  แสดงข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ อาทิ วัด ศาสนสถาน โบราณสถาน และพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ สถานที่สำคัญ และโดดเด่นของท้องถิ่น ร้านอาหารยอดนิยม ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม สินค้าเกษตร และที่พักแบบโฮมเสตย์ รวมถึงจัดกิจกรรมพิเศษ เช่น ไหว้พระ นั่งรถสามล้อชมสวนเกษตร ล่องแพและแล่นเรือชมธรรมชาติ

น.ส.รัชดา กล่าวว่า นายกฯ ได้กล่าวชื่นชมรูปแบบการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวที่ผลิตออกมาได้อย่างน่าสนใจ และได้นำมาบอกเล่าในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยอยากให้มีการเที่ยวในประเทศให้มาก เพราะจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการมีรายได้ สร้างรายได้แก่ชุมชน ที่สำคัญต้องเที่ยวอย่างปลอดภัยตามวิถีนิวนอร์มอล และในยุคโซเชียลมีเดีย หากนักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพและเช็คอินสถานที่ ก็จะเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์ความสวยงาม ศิลปวัฒนธรรม ของประเทศ ถือเป็นการเผยแพร่ซอฟ พาวเวอร์ของไทยสู่สายตาชาวโลกอีกด้วย

ส่วนความกังวลต่อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เฝ้าระวังการและติดตามการแพร่ระบาด ทุกอย่างทำอย่างเต็มที่ ผู้ประกอบการและประชาชนร่วมกันปฎิบัติตามมาตรการ " COVID Free Setting " และ  “DMHTT” อย่างที่ได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อการท่องเที่ยวไทยปลอดภัย และคนไทยปลอดภัย