‘แรมโบ้’ ฟาดแรง ‘ชัยเกษม’ มีสมองหรือไม่? เป็นถึงอดีตผู้รักษากม. แต่หนุน ‘แอมเนสตี้’
‘แรมโบ้’ ฟาดแรง ‘ชัยเกษม’ มีสมองหรือไม่เป็นถึงอดีตผู้รักษากฎหมาย แต่สนับสนุนแอมเนสตี้ ทั้งที่รู้เป็นองค์กรมีพฤติกรรมทำลายประเทศ เข้าข้างคนทำผิดกฎหมายแล้วอ้างสิทธิมนุษยชน
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายชัยเกษม นิติสิริ แกนนำพรรคเพื่อไทยแสดงจุดยืนพรรคไม่สนับสนุนที่จะให้ยุบ หรือ ขับแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ออกจากประเทศไทย และพาดพิงตนเองบอกว่าคนไล่ไม่รู้เอาสมองส่วนไหนคิด โดยระบุว่านายชัยเกษมเป็นถึงอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อดีตอัยการสูงสุด อดีตอัยการอาวุโส แต่กลับมองว่าองค์กรที่สนับสนุนกลุ่มที่ทำความผิดกฎหมายเป็นเรื่องที่ถูกต้อง
ขณะเดียวกันนายชัยเกษมไม่ควรมองแค่เรื่องสิทธิมนุษยชน แต่ควรมองถึงเรื่องการกระทำผิดกฎหมายด้วย ซึ่งแอมเนสตี้ออกมาปกป้องคนที่ทำผิดกฎหมาย ที่ทำให้บ้านเมืองเดือดร้อน จาบจ้วงก้าวล่วงสถาบัน จึงเป็นธรรมดาที่คนส่วนใหญ่จะไม่เห็นด้วยแล้วออกมาขับไล่
นายเสกสกล ยังมองว่าแท้จริงแล้วแอมเนสตี้เป็นองค์กรที่ไม่มีประโยชน์กับคนไทยทั้งประเทศหรือไม่ หรือว่ามีประโยชน์กับแค่คนส่วนน้อย เช่น กลุ่มม็อบ พรรคเพื่อไทย หรือพรรคฝ่ายค้าน ทั้งที่คนส่วนใหญ่ทั้งประเทศก็ถูกละเมิดสิทธิ จากการสร้างความเดือดร้อนของกลุ่มผู้ชุมนุมเช่นเดียวกัน
“ตนเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าคนที่เป็นอดีตผู้รักษากฎหมาย อย่างนายชัยเกษม เอาสมองส่วนใดมาคิดที่จะสนับสนุนแอมเนสตี้ ทั้งที่องค์กรนี้อยู่เคียงข้างผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย โดยการเอาคำว่าสิทธิมนุษยชนมาอ้าง อีกทั้งมาอยู่ในประเทศไทยแต่กลับมีพฤติกรรมที่จะทำลายประเทศไทย ไม่รู้จักกฎหมายไทย สนับสนุนคนทำผิด ซึ่งเรื่องนี้นายชัยเกษม และพรรคเพื่อไทยน่าจะรู้ดี คนแบบนี้พรรคการเมืองแบบนี้ประชาชนไม่สมควรสนับสนุนอีกต่อไป
“ตนชักสงสัยนายชัยเกษมและพรรคเพื่อไทยเหมือนกับคนไทยที่รักสถาบัน ว่าตกลง นายชัยเกษมเคยออกแถลงการณ์พรรคเพื่อไทยจะแก้ไขมาตรา 112 มาวันนี้ออกมาปกป้ององค์กรที่ไปสนับสุนแกนนำม็อบจาบจ้วงก้าวล่วงสถาบันอีกแล้ว ดีเหมือนกันพี่น้องประชาชนจะได้หูตาสว่างเสียที ว่าพรรคเพื่อไทยคิดอย่างไรต่อสถาบันเบื้องสูง และกล้าเอาหน้าออกมาปกป้องแอมเนสตี้องค์การต่างชาติที่หวังมาทำลายความสงบสุขทำลายความมั่นคงของประเทศไทย ตนจะป่าวประกาศให้คนไทยได้รับรู้ให้ทั่วไปเลยว่า นายชัยเกษม พรรคเพื่อไทย คิดร้ายต่อสถาบัน เลือกตั้งจะได้รู้กันว่าประชาชนจะเลือกพรรคเพื่อไทยหรือไม่”