‘บิ๊กตู่’ ปลุกใจ นักศึกษา ‘วปอ.64’ ขอให้มีความกล้าหาญที่จะยืนในโรงหนัง

นายกรัฐมนตรี ฝากนักศึกษา ‘วปอ.64’ ขอให้มีความกล้าหาญที่จะยืนในโรงหนัง ห่วงคนอยากยืนแต่ไม่กล้ายืนเพราะกลัวถูกบูลลี่

เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 64 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดการศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 64 มีผู้เข้ารับการศึกษา จำนวน 288 คน และนักศึกษาจากมิตรประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับนักศึกษาวปอ.64 ตอนหนึ่งว่า ฝาก เรื่องการยืน ในโรงชมภาพยนตร์ด้วย เป็นห่วง คนที่อยากยืน แต่ไม่กล้ายืน เพราะกลัวถูกบูลลี่ จึงอยากขอทุกคนมีความกล้าหาญที่จะยืน ขอทุกคนคงเข้าใจนะ ไม่ได้บังคับกัน

"เราเป็นครอบครัวเดียวกัน ที่ยั่งยืน ด้วยหลักเกณฑ์ หลักการของประเทศ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน"

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์กล่าวบรรยายเรื่อง “บทบาทของภาครัฐ เอกชน และการเมืองในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ” โดยย้ำไทยที่มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่มีความแข็งแกร่ง อาหารและทรัพยากรธรรมชาติมีความอุดมสมบูรณ์ ภาคอุตสาหกรรมและบริการที่มีความสามารถในการแข่งขันทัดเทียมนานาประเทศ รัฐบาลเตรียมความพร้อมประเทศ ในการรองรับการพัฒนาอย่างก้าวหน้าของประเทศและประชาคมโลก

รวมทั้งป้องกันภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “ความมั่นคงแบบองค์รวม” หรือ "Comprehensive Security” ซึ่งมาจากทั้งปัจจัยภายในประเทศ เช่น ความเหลื่อมล้ำในมิติต่าง ๆ การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) อย่างสมบูรณ์ การเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศ สาธารณภัยและภัยพิบัติต่าง ๆ ฯลฯ และปัจจัยภายนอกประเทศ เช่น ข้อกำหนด กฎหมาย หรือพันธกรณีระหว่างประเทศ การแย่งชิงแรงงานและเงินทุน การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของโลก การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ที่ส่งผลต่อภาคธุรกิจและการใช้ชีวิตของประชาชน ภาวะโลกร้อนและสภาวะภูมิอากาศที่ผันผวน ก่อให้เกิดภัยธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น

รัฐบาลจึงได้มีการกำหนดแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนปฏิรูปประเทศ เพื่อยกระดับการพัฒนาให้บรรลุตามวิสัยทัศน์ “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ผ่านกลไก “ประชารัฐ”

นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า “การป้องกันประเทศชาติให้พ้นจากการรุกรานนั้น ทุกภาคส่วนมีบทบาทและความสำคัญทั้งสิ้น” ทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจกันเพื่อให้ไทยเป็นผู้เล่นสำคัญในเวทีโลก ยกระดับศักยภาพการเป็นผู้ประกอบการธุรกิจ การป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบ สนับสนุนในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม ตามทิศทางการปรับเปลี่ยนโครงสร้าง เศรษฐกิจไปสู่ “Value-Based Economy” และการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจแบบ BCG ที่สอดคล้องกับทิศทางนโยบายของนานาชาติ เรื่องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศของโลก รวมถึงแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนของประเทศอย่างจริงจัง 

ซึ่งได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ข้าราชการมาเข้าไปแก้ปัญหาหนี้รายครัวเรือนให้กับประชาชน ภายใต้แนวคิด “1 ข้าราชการ รับผิดชอบ 1 ครัวเรือนยากจน” เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงศักยภาพของเยาวชนของไทย โดยยกตัวอย่างเยาวชนไทย 2 ราย ที่ได้รับคัดเลือกจาก เยาวชนทั่วโลก ให้เข้าร่วมในการเสนอแนวคิดในการประชุมเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศโลก ภายใต้การพัฒนาแบบยั่งยืน ที่จะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนกันยายน 2564 ที่ประเทศอิตาลี

จึงอยากให้นักศึกษา วปอ. รุ่นที่ 64 ช่วยกันระดมความคิด ดึงกลุ่มเด็กเยาวชน ซึ่งเป็นกลุ่มพลังทางความคิดที่สำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ให้ข้อคิดเห็น และเติมเต็มประสบการณ์ร่วมกันกับนักศึกษาที่เข้ารับการศึกษาในหลักสูตรนี้ เพื่อร่วมกันเตรียมพร้อมรับมือในอนาคต ทั้งเรื่องสภาวะโลกร้อน การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ หรือการนำแนวคิดเศรษฐกิจแบบ BCG ซึ่งเป็นวาระหลักของการประชุม APEC ในปีหน้ามาประยุกต์ใช้ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม รวมทั้งน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและพระบรมราโชบาย สืบสาน รักษา ต่อยอด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 มาปฏิบัติและร่วมกันรักษาแผ่นดินไทยนี้ไว้ตลอดไป


ที่มา : https://www.posttoday.com/politic/news/667944