'บิ๊กตู่' เผย ร่วมประชุม COP 26 ถือว่าคุ้ม ได้พบผู้นำหลายประเทศ พร้อมร่วมมือกับไทย 

นายกฯ เผย การเดินทางเข้าร่วมประชุม COP 26 ถือว่าคุ้ม ได้พบปะพูดคุยกับผู้นำประเทศต่าง ๆ หลายท่านรู้จักและคุ้นเคยกันดี ในหลายประเด็น “เขาพูดกับผมอย่างเดียวว่าพร้อมที่จะร่วมมือกับไทย พร้อมที่จะเดินหน้าในมิติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการค้าการลงทุน”

(2 พ.ย. 64) เมืองกลาสโกว์ สกอตแลนด์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมหารือและการกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมระดับผู้นำในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 ว่า ได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับผู้นำประเทศต่าง ๆ ซึ่งหลายท่านรู้จักและคุ้นเคยกันดี ในหลายประเด็น ได้พูดคุยกันถึงเรื่องความสัมพันธ์ที่ดีที่มีกันมาอย่างยาวนาน เพราะหลายคนก็ไม่ได้พบกันหลายปีพอสมควร แต่หลายคนก็อยู่ด้วยกันโดยเฉพาะประเทศในภูมิภาคอาเซียน

“อย่างไรก็ตามผู้นำประเทศต่าง ๆ เขาพูดกับผมอย่างเดียวว่าพร้อมที่จะร่วมมือกับไทย พร้อมที่จะเดินหน้าในมิติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการค้าการลงทุน แม้แต่ในกลุ่มประเทศอาเซียน อย่างเวียดนาม ได้ยืนยันว่าจะต้องดำเนินการทุกอย่างให้เร็วขึ้น โดยเฉพาะการเจรจาทวิภาคีและพหุภาคี หรืออย่างเกาหลีใต้ เยอรมนี และได้ใช้โอกาสในการพูดคุยเชิญชวนบรรดาผู้นำประเทศต่าง ๆ มาเข้าร่วมประชุมกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือการประชุมเอเปค ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมในปี 2565 ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ในการประชุมอาเซียนที่ผ่านมาก็ได้มีการเรียนเชิญไปบ้างแล้ว

“การเดินทางเข้าร่วมประชุม COP 26 ในครั้งนี้ ถือว่าคุ้มค่าและเกิดประโยชน์กับประเทศและประชาชนไทย ทุกคนที่เดินทางมาทำงานกันอย่างเต็มที่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ไทยที่อยู่ในต่างประเทศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็ได้มีการเตรียมการข้อมูลต่าง ๆ ไว้เป็นอย่างดี ได้มีการบูรณาการงานตามที่รับนโยบายมา ซึ่งนโยบายของนายกรัฐมนตรีให้กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งผมได้กำหนดกรอบและนโยบายลงมา โดยเป็นการบูรณาการร่วมกับกระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพลังงาน ตามแผนยุทธศาสตร์ที่เราได้ออกมาแล้ว สิ่งเหล่านี้ตนต้องไล่ติดตามทั้งหมด โดยจะต้องทำตามกรอบที่กำหนดให้ได้ทั้งหมดก็เพื่อลูกหลานของเราและคนทั้งโลก” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว


ที่มา: https://www.thaipost.net/news-update/16878/