‘กรณ์’ หวั่นคนไทยไร้เงินออมยามชรา ชงรัฐเติมงบ ‘กองทุนการออมแห่งชาติ’

สืบเนื่องจากวันที่ 31 ตุลาคม ของทุกปีเป็น “วันออมแห่งชาติ” กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า การออมในระดับครัวเรือนยังห่างไกลจากคำว่าพอ โดยให้ลองถามตัวเองดูว่า "มั่นใจแค่ไหนว่า คุณมีเงินออมเพียงพอต่อชีวิตหลังเกษียณ?"

รวมทั้งคิดเผื่อด้วยว่า เรามีโอกาสสูงที่จะมีชีวิตเกษียณยาวนานได้ถึง 25-30 ปี หรือไม่ และลองสมมติเพิ่มเติมว่า ค่าครองชีพจะสูงขึ้นเท่าไร โดยเฉพาะค่ารักษาพยาบาลที่เราต้องใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ ในวัยชรา ยิ่งในกลุ่มผู้มีรายได้น้อยยิ่งเป็นปัญหา คนไทยส่วนใหญ่ไม่มีบำเหน็จบำนาญ โดยเฉพาะเกษตรกรและผู้ใช้แรงงาน ส่วนหนี้ครัวเรือนสูงขึ้นเรื่อย ๆ บวกลบแล้วน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง

“สมัยผมเป็นรัฐมนตรีคลัง เราออกกฎหมาย ‘กองทุนการออมแห่งชาติ’ หรือ 'กอช.' เพื่อจูงใจให้คนไทยออมมากขึ้นโดยมีเงินสมทบจากรัฐบาล แต่กองทุนนี้ถูกดองไว้นาน เพราะการเอาแต่ 'เล่นการเมือง' โดยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ จนกองทุนการออมเพิ่งจะเริ่มได้ในยุค คสช. แต่พอมาถึงยุครัฐบาลปัจจุบัน ถึงแม้เป็นนายกฯ คนเดียวกัน ก็ยังกล้า ๆ กลัว ๆ กับการจัดสรรงบประมาณให้เพียงพอต่อการจูงใจให้ประชาชนเข้าร่วม ทั้ง ๆ ที่โลกกำลังเป็นเทรนด์ทางเศรษฐกิจที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ แต่สัดส่วนคนไทยเข้า กอช. ยังน้อยเกินไปมาก 

มาจนถึงวันนี้ กระทรวงการคลังก็ยังไม่ยอมเพิ่มสิทธิประโยชน์ตามที่คณะกรรมการกองทุนเรียกขอ ไม่ยอมมองการณ์ไกล แม้ว่ามีทั้งเงินงบประมาณ และเงินกู้ในมือมากที่สุดที่ใครเคยมีมา การสมทบเงินออมไม่ได้คะแนน ไม่เหมือนเงินแจก นี่คือ เรื่องเศร้าที่เป็นความจริงทางการเมือง” กรณ์ กล่าว

หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวด้วยว่า พรรคกล้าพร้อมให้ความสำคัญกับการทำให้ประชาชนทุกคนมีเงินออม เพราะการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับคนไทยในวัยชราถือเป็น 'วาระแห่งชาติ' และนโยบายหลักที่สำคัญมากในยุคที่ผู้สูงอายุมีเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว