'ก.เกษตรฯ' เร่งขับเคลื่อนภารกิจ​ จับมือ 5 คลัสเตอร์สภาอุตสาหกรรมผนึก 'พาณิชย์-หอการค้า'​ ลุยตลาดโลก 6 ล้านล้านบาท

'เฉลิมชัย'​ รุกนโยบายอาหารแห่งอนาคต​ (Future Food) ส่งเสริม​ 'ไข่น้ำ-คาเวียร์เขียว'​ (Green Caviar) เป็นซูเปอร์ฟู้ด (Super Food) ดาวรุ่งสร้างอาชีพใหม่ให้เกษตรกรฝ่าวิกฤติโควิด19 ด้าน​ 'อลงกรณ์'​ เร่งขับเคลื่อนจับมือ 5 คลัสเตอร์สภาอุตสาหกรรมผนึก 'พาณิชย์-หอการค้า' ลุยตลาดโลก 6 ล้านล้านบาท

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กรกอ.) เปิดเผย (23ต.ค.64) ภายหลังกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ศักยภาพของไข่น้ำสำหรับเกษตรกรไทยและการส่งออก” ว่า...

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กำหนดนโยบายอาหารแห่งอนาคต​ (Future Food Policy) เป็นหนึ่งในนโยบายหลักเพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ​ ให้กับประเทศตลอดห่วงโซ่เกษตรและอาหารเป็นการตอบโจทย์ผู้บริโภคทั่วโลก​ใน​ยุคนิวนอร์มอล (New Normal)

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์​ จึงร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยภายใต้การขับเคลื่อนของ​ 'กรกอ.'​ ้ดินหน้าส่งเสริมพืชเศรษฐกิจตัวใหม่คือ​ 'ผำ'​ หรือ 'ไข่ผำ'​ หรือไข่น้ำ​ (Wolffia) ซึ่งเป็นพืชน้ำล้ำค่ามีฉายาว่า​  'คาเวียร์เขียว'​ (Green Caviar) ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นสุดยอดซูเปอร์ฟู้ด​(SuperFood) ของอาหารแห่งอนาคต​ (Future Food) โดยสนับสนุนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ

1.การวิจัยและพัฒนาโดยศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (AIC)และสวก.
2.การส่งเสริมการผลิต โดยกรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมประมง สปก. วิสาหกิจชุมชน เกษตรแปลงใหญ่ และเอสเอ็มอี.เกษตร
3.การแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างแบรนด์ใน5คลัสเตอร์อุตสาหกรรม
4.การตลาดออนไลน์และออฟไลน์ทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศโดยกระทรวงพาณิชย์ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและหอการค้าไทย​ ตั้งเป้าเจาะตลาดมูลค่าสูงถึง 2​แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ​ หรือ 6 ล้านล้านบาท 

“ผำเป็นพืชวัฒนธรรมและอาหารพื้นเมืองของไทยมาแต่โบราณกาล และวันนี้กลายเป็นซูเปอร์ฟู้ดของโลก​ เพราะมีโภชนาการ​(Nutrients) ครบถ้วนสูงมากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก​ ทั้งวิตามิน แร่ธาตุ ไฟเบอร์ โปรตีน ประกอบกับเป็นพืชน้ำทรงกลมขนาดจิ๋ว​ จึงได้ฉายาว่า Green Caviar นับเป็นพืชที่อยู่ในกลุ่มนโยบาย อาหารแห่งอนาคต​ (Future Food) ซึ่งแบ่งเป็น​ 4​ กลุ่มได้แก่ 1. อาหารอินทรีย์ 2. อาหารเสริมสุขภาพ 3. อาหารทางการแพทย์ 4. อาหารนวัตกรรมใหม่ 

"เราส่งเสริมสนับสนุนโดยร่วมมือกับสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ภายใต้ 5 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่... 
 1. อุตสาหกรรมอาหาร และ เครื่องดื่ม
 2. อุตสาหกรรมอาหารเสริม
 3. อุตสาหกรรมอาหารสัตว์และอาหารเสริม
 4. อุตสาหกรรมยาและยาสัตว์
 5. อุตสาหกรรมเครื่องสำอางค์และบำรุงผิว
นับเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่มีอนาคต​สามารถสร้างอาชีพใหม่ให้เกษตรกรฝ่าวิกฤติโควิด19​ เพราะเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ” นายอลงกรณ์​ กล่าวในท้ายที่สุด