โฆษกรัฐบาล ยันไทยไม่ได้ขายน้ำมันแพงที่สุดในโลก

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น สาเหตุมาจากความต้องการใช้พลังงานทั่วโลกเพิ่มขึ้นหลังจากทั่วโลกมีการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง ส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศที่มีการปรับขึ้น โดยนายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยในเรื่องนี้ จึงสั่งการให้ติดตามสถานการณ์ราคาพลังงานอย่างใกล้ชิด 

ล่าสุด คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน ได้ออกมาตรการบรรเทาผลกระทบของน้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่ปรับตัวสูงขึ้น ดังนี้ 1.ลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในส่วนของ B7 จาก 1 บาท เหลือเพียง 1 สตางค์ ส่งผลให้ B7 มีราคาอยู่ที่ 30.29 บาท/ลิตร ซึ่งมาตรการนี้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ 5 ต.ค. 2564 เป็นต้นไป และ 2.ปรับลดสัดส่วนไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว จากเดิมมีการผสมอยู่ 3 สัดส่วน คือ บี7 บี10 บี20 ให้เหลือ 2 สัดส่วน คือ บี6 และ บี20 พร้อมทั้งเห็นชอบค่าการตลาดของน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา บี6 เท่ากับ 1.40 บาทต่อลิตร เพื่อใช้อ้างอิงในการกำกับดูแลความเหมาะสมของราคาขายปลีก ซึ่งจะส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซล บี6 จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 28.29 บาท/ลิตร ในช่วงระหว่างวันที่ 11-31 ต.ค. 2564 

อีกทั้งในระหว่างนี้จะมีการประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและกำหนดมาตรการในระยะต่อไป โดยทั้งหมดนี้ คิดเป็นมูลค่าการชดเชยตามมาตรการดังกล่าวนี้ประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันสถานะเงินกองทุนฯ อยู่ที่ 11,000 ล้านบาท ยังคงเพียงพอที่จะนำมาช่วยเหลือ นอกจากนี้ที่ผ่านมาได้ใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงฯ เพื่อชดเชยราคาขายปลีกแอลพีจี สำหรับถังขนาด 15 กิโลกรัม อยู่ที่ 318 บาทต่อถัง (ไม่รวมค่าขนส่ง) ต่อเนื่องจนวันที่ 31 ธ.ค. 2564